ผู้บริหารส่วนใหญ่จากหลากหลายอุตสาหกรรมเชื่อคริปโตจะแทนที่หรือเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับเงินกระดาษภายใน 5-10 ปี แนะบริษัทการเงินกระโจนร่วมวงคริปโต สินทรัพย์ดิจิตอล และบล็อกเชนก่อนพลาดท่าเสียทีคู่แข่ง โดยสเตเบิลคอยน์และ CBDC คือเป้าหมายแรกสุดสำหรับบริษัทที่ต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้
ตามรายงานการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับบล็อกเชนของบริษัทที่ปรึกษาแถวหน้า ดีลอยต์ ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาพบว่า ผู้บริหารอาวุโสในอุตสาหกรรมต่างๆ 76% เชื่อว่า สินทรัพย์ดิจิตอลจะเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งหรือแทนที่เงินเฟียตภายในไม่เกิน 10 ปี
ผู้บริหารเหล่านี้ยังเล็งเห็นประโยชน์จากสินทรัพย์ อาทิ เงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) และสเตเบิลคอยน์หรือเงินดิจิตอลที่อิงกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ เช่น สกุลเงินจริง
รายงานของดีลอยต์ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ เงินทุนกำลังไหลเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิตอลเนื่องจากนักลงทุนทั้งประเภทสถาบันและรายย่อยมองว่า เป็นสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับคริปโตซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเงิน โดยบริษัทต่างๆ กำลังมองหาวิธีเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการในอนาคตของลูกค้า
ผู้บริหารเหล่านั้นเชื่อว่า การมีส่วนร่วมในยุคสินทรัพย์ดิจิตอลไม่ใช่ตัวเลือก แต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และบรรดาผู้นำธุรกิจมีตัวเลือกในการตัดสินใจเพียงแค่ว่า จะใช้สินทรัพย์ดิจิตอลและโครงสร้างพื้นฐานบริการทางการเงินระดับโลกอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบริษัท
ผู้ตอบแบบสำรวจ 80% ระบุว่า อุตสาหกรรมการเงินจะมองเห็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ จากสินทรัพย์ดิจิตอลและบล็อกเชน โดยเกือบครึ่งลงความเห็นว่า บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิตอลคือโอกาสสำคัญที่สุด นอกจากนั้นยังมีช่องทางการชำระเงินใหม่ๆ และการกระจายพอร์ตการลงทุน
กว่า 3 ใน 4 เห็นตรงกันว่า ถ้าบริษัทไม่เปิดรับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิตอล อาจพลาดโอกาสทองและพ่ายแพ้คู่แข่ง
ริชาร์ด วอล์กเกอร์ ผู้นำฝ่ายบล็อกเชนในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินในอเมริกาของดีลอยต์ ระบุว่า โอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในตลาดการเงินโลกหลายด้านเปิดกว้างสำหรับผู้เล่นที่สำรวจแนวทางใหม่ๆ ในการใช้พลังอำนาจของอุตสาหกรรมบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิตอลเพื่อปรับภาพลักษณ์ธุรกิจของตนเอง
ปัจจุบัน บริษัทการเงินดั้งเดิมหลายแห่งกำลังค่อยๆ รวมสินทรัพย์ดิจิตอลในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอแก่ลูกค้า ในจำนวนนี้รวมถึงเจพีมอร์แกนและโกลด์แมน แซคส์ ที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังตั้งแง่กับการเปิดรับคริปโตเข้าสู่การธนาคารกระแสหลัก แต่ตอนนี้ทั้งคู่ต่างมีกองทุนบิตคอยน์ให้บริการลูกค้าระดับเศรษฐี
อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสำรวจ 65% บอกว่า การขาดแคลนโครงสร้างทางการเงินที่มุ่งเน้นคริปโตคืออุปสรรคสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสินทรัพย์ดิจิตอล อุปสรรคสำคัญอื่นๆ ยังรวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ปัญหาด้านกฎระเบียบ และความจำเป็นในการปกป้องความเป็นส่วนตัว
การสำรวจนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 10 เมษายน ครอบคลุมผู้บริหารอาวุโส 1,280 คนในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงบริการทางการเงิน ใน 10 ประเทศ ได้แก่ บราซิล จีน สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ อเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์