นายพิทเยนท์ อัศวนิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ยังทรงตัวในระดับสูง และบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เกตแชร์) ธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในปีนี้เพิ่มขึ้นไปอยู่ราว 2.4% จากปัจจุบันที่ราว 2.2% หลังบริษัทขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมองว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น
ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 21 ดีล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย (IPO) 18 ดีล คาดในช่วงที่เหลือปีนี้จะได้เห็นความชัดเจนของดีล IPO ราว 2 ดีล ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ปรับตัวดีขึ้นเพิ่มเติม
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในข่วงที่เหลือของปี 64 นายพิทเยนท์ กล่าวว่า ตลาดเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากแนวโน้มผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันมีตัวเลขลดลง และการกระจายวัคซีนทำได้มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศได้บางส่วน และเป็นส่วนสนับสนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวสูงขึ้น โดย ASP ให้เป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ในปีนี้ที่ 1,670 จุด แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมานั้นมาจากการลงทุนของนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก เพราะเงินทุนต่างประเทศมีการโยกย้ายไปลงทุนในประเทศที่มีการผ่อนคลายมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากกว่าประเทศไทย