หลังจากถูกถล่มขายจนทรุดหนักหลุด 1 บาท หุ้นบริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP กำลังถูกลากขึ้นมาใหม่ ปลุกให้รายย่อยตามแห่เก็งกำไรกันอีกครั้ง
7UP ติดอยู่ในทำเนียบหุ้นร้อนประจำปีนี้ โดยถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายแล้ว 4 ครั้ง เนื่องจากสภาพการซื้อขายผิดปกติ
ราคาหุ้น 7UP เริ่มร้อนแรงขึ้นมา หลังจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่งพันธุ์ม่วง นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ถือหุ้นในสัดส่วน 9.94% ของทุนจดทะเบียน ขณะที่ลูกชาย นายรชต พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นในสัดส่วน 4.99%
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 7UP ปิดที่ 47 สตางค์ หลังจากนั้นถูกลากขึ้นต่อเนื่อง จากขึ้นสูงสุดที่ 3.58 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ภายในเวลาประมาณ 4 เดือน หุ้น 7UP ปรับตัวขึ้นถึง 3.11 บาท หรือปรับตัวขึ้น 661.70%
แต่หลังจากสร้างจุดสูงสุดที่ 3.58 บาท 7UP ก็เริ่มดิ่งลง จนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ของรอบที่ระดับ 94 สตางค์ ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 9 สิงหาคม โดยมีรายงานว่า นายรชต ได้เทขายหุ้นจำนวน 4.65 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.83 บาท เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม
หุ้น 7UP ลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 1 บาทเศษอยู่หลายวัน และถือเป็นการปิดรอบเก็งกำไร จนกระทั่งวันที่ 11 สิงหาคม เมื่อบริษัทฯ แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และงวด 6 เดือนแรกปีนี้ จึงมีการไล่ราคาหุ้นกลับเข้ามาใหม่
ไตรมาสที่ 2 7UP มีกำไรสุทธิ 50.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.52 ล้านบาท รวมงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 153.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63.35 ล้านบาท
ราคาหุ้น 7UP พุ่งขึ้นรับผลประกอบการ โดยนักลงทุนรายย่อยทยอยกลับเข้ามาเก็งกำไรกันใหม่ ทำให้มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น ติดอันดับต้นๆ ของหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรกในแต่ละวัน และเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาขยับขึ้นมาปิดที่ 1.57 บาท เพิ่มขึ้น 14 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 9.79% เคาะซื้อขายกันสนั่น 3,455.59 ล้านบาท
ค่าพี/อี เรโช 7UP อยู่ที่ประมาณ 38 เท่า ซึ่งถือว่าสูง ราคาหุ้นจึงเป็นราคาที่ตั้งอยู่บนความคาดหวังผลประกอบการในอนาคต และหากว่ากำไรยังเติบโตสูงต่อเนื่องเหมือนงวด 6 เดือนแรก ราคาขณะนี้คงไม่แพงเกินจะซื้อ แต่ถ้าผลประกอบการชะลอตัว นักลงทุนที่แห่เข้าไปลุยจะมีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม มูลค่าซื้อขายหุ้น 7UP ที่พุ่งขึ้นติดอันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด สะท้อนให้เห็นว่า แมลงเม่าไม่กลัวตายกันแล้ว แห่เข้าเก็งกำไรกันฝุ่นตลบ เป็นการเปิดรอบใหม่ของหุ้นร้อนตัวนี้ และไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะถูกลากไปไกลขนาดไหน แต่ไม่น่าจะไปถึงจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 3.58 บาทได้
เพราะนักลงทุนที่ติดดอยอยู่รอบก่อน รอเทขายอยู่
7UP เป็นหุ้นที่มีเจ้าของ มีกลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วงถือหุ้นใหญ่ สิ่งที่นักลงทุนหวั่นไหวในหุ้นตัวนี้คือ เจ้าของเทขาย เพราะรอบก่อน เจ้าของทยอยขายออกมาเหมือนกัน
ขึ้นมารอบนี้ ไม่รู้ว่า “เจ้าของ” เข้ามาจุดพลุหรือไม่ แต่นักเก็งกำไรที่แห่เข้ามาลุยรู้ดีว่า จะต้องระวังเจ้าของเทขาย
