ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ ประกาศความพร้อมสำหรับการยอมรับคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) โดยการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการใช้ bitcoin เป็นเงินตราของประเทศ
Nayib Bukele ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ประกาศว่ากำลังติดตั้งตู้เอทีเอ็ม 200 เครื่องและเตรียมสาขาธนาคารกว่า 50 แห่งก่อนการประกาศบังคับใช้กฏหมายบิทคอยน์ในวันที่ 7 กันยายน ตามที่เขาได้โพสต์ในทวีตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
"การทำงานระหว่างตู้ ATM จะควบคู่ไปกับแอพ cryptocurrency ของรัฐบาลที่เรียกว่า Chivo ซึ่งสามารถดูได้ว่าเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เข้าถึงได้ทั้งพลเมืองและนักท่องเที่ยว ผู้ที่ดาวน์โหลดแอปจะได้รับ $30 เป็น bitcoin ตามรายงานก่อนหน้านี้ Chivo จะอนุญาตให้ผู้ใช้แปลง bitcoin เป็นดอลลาร์สหรัฐโดยอัตโนมัติ โดยธุรกรรมในแอปจะปลอดค่าคอมมิชชัน ซึ่งช่วยให้ประเทศในอเมริกากลางประหยัดค่าธรรมเนียมได้ 400 ล้านดอลลาร์ต่อปี" Bukele กล่าวในทวีต
ในเดือนมิถุนายน Bukele ได้ประกาศเจตนารมณ์ของประเทศที่จะเป็นประเทศแรกในโลกที่ยอมรับ bitcoin เป็นเงินสกุลดอลลาร์ที่ถูกกฎหมายควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดีมีนักวิจารณ์หลายคนตั้งคำถามกับการตัดสินใจดังกล่าว โดยชี้ไปที่ความผันผวนที่รุนแรงของ bitcoin สกุลเงินดิจิทัลสูญเสียมูลค่าไปเกือบ 25% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 65,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน มีการซื้อขายประมาณ 49,000 ดอลลาร์ ณ วันที่ 23 สิงหาคม
ขณะเดียวกันกฎหมายที่เรียกว่ากฎหมาย Bitcoin ได้โน้มน้าวทางการเงินและการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นเหตุผลในการยอมรับ bitcoin โดยเน้นที่ 70% ของชาวเอลซัลวาดอร์ที่ไม่สามารถเข้าถึง "บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม"
อย่างไรก็ตาม องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก รวมถึงธนาคารรายใหญ่ เช่น JPMorgan และ Bank of America ได้แสดงความกังวลต่อการนำ bitcoin มาใช้
ทั้งนี้จากผลโพลที่ได้ทำการสำรวจในเดือนมิถุนายนโดยมหาวิทยาลัยในเอลซัลวาดอร์ ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจสกุลเงินดิจิทัล และไม่เชื่อในการเคลื่อนไหวของ Bukele ที่จะเสนอราคา Bitcoin ให้ถูกกฎหมาย