ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ส.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกดิ่งลงอย่างหนักในเดือน ก.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของโฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,448.08 จุด ลดลง 31.63 จุด หรือ -0.71% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,656.18 จุด ลดลง 137.58 จุด หรือ -0.93%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่สดใสได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 ในเอเชียและในภูมิภาคอื่นๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 473.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,181.11 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด หรือ +0.38% แต่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,819.84 จุด ลดลง 18.93 จุด หรือ -0.28% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,921.95 จุด ลดลง 3.78 จุด หรือ -0.02%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและเฮลธ์แคร์ และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงข้อมูลการจ้างงานที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,181.11 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด หรือ +0.38%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 66.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 69.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2564
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือน ก.ค.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,787.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 13.2 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 23.659 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 27.3 ดอลลาร์ หรือ 2.67% ปิดที่ 993.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. ร่วงลง 102.40 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 2,495.60 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งวุ่นวายทางการเมืองในอัฟกานิสถาน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และการที่จีนคุมเข้มกฎระเบียบในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.54% แตะที่ 93.1253 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.56 เยน จากระดับ 109.22 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9148 ฟรังก์ จากระดับ 0.9122 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2624 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2571 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1775 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3735 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3838 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7251 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด, -0.79%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,448.08 จุด ลดลง 31.63 จุด, -0.71%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,656.18 จุด ลดลง 137.58 จุด, -0.93%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,181.11 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด, +0.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,819.84 จุด ลดลง 18.93 จุด, -0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,921.95 จุด ลดลง 3.78 จุด, -0.02%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 55,792.27 จุด เพิ่มขึ้น 209.69 จุด, +0.38%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,523.59 จุด เพิ่มขึ้น 20.69 จุด, +1.38%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,561.41 จุด เพิ่มขึ้น 47.73 จุด, +0.73%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,118.51 จุด ลดลง 27.01 จุด, -0.86%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,745.87 จุด ลดลง 435.59 จุด, -1.66%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,446.98 จุด ลดลง 70.37 จุด, -2.00%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,661.36 จุด ลดลง 197.41 จุด, -1.17%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,143.09 จุด ลดลง 28.20 จุด, -0.89%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,424.47 จุด ลดลง 98.72 จุด, -0.36%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,511.00 จุด ลดลง 71.50 จุด, -0.94%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,773.30 จุด ลดลง 76.30 จุด, -0.97%
ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดทำการวานนี้ (17 ส.ค.) เนื่องในวันประกาศอิสรภาพ