ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภูมิภาคยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลบางประเทศต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรค โดยปัจจัยดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการปิดทำนิวไฮของดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,512.11 จุด ลดลง 5.23 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,666.94 จุด เพิ่มขึ้น 143.75 จุด หรือ +0.52% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,137.90 จุด ลดลง 43.56 จุด หรือ -0.17%
นักลงทุนในภูมิภาคยังคงจับตาการระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาค โดยเฉพาะในเมืองใหญ่หลายแห่งของออสเตรเลีย รายงานล่าสุดระบุว่า ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไม่ติดอาวุธหลายร้อยนายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตั้งเครื่องกีดขวางควบคุมการเดินทางสัญจรตามเส้นทางต่างๆ และคุมเข้มการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโควิด-19 ในบางพื้นที่ของซิดนีย์เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ทางการยังได้เพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังโควิด-19 อีกหลายแห่งในเมลเบิร์นด้วย
การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในออสเตรเลียส่งผลให้เมืองใหญ่หลายแห่งทั้งซิดนีย์, เมลเบิร์น และกรุงแคนเบอร์ราเข้าสู่การล็อกดาวน์ โดยเมื่อวานนี้ มีการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนและขยายมาตรการล็อกดาวน์ในเมืองเมลเบิร์นต่อไปอีกสองสัปดาห์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียได้รับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เพิ่มอีก 1 ล้านโดส หลังบรรลุข้อตกลงกับโปแลนด์ โดยวัคซีนชุดใหม่ขนส่งถึงออสเตรเลียเมื่อวันอาทิตย์ (15 ส.ค.) ก่อนนำไปฉีดให้ประชาชนในกลุ่มอายุ 20-39 ปี โดยปัจจุบัน อัตราการฉีดวัคซีนในผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในประเทศอยู่ที่ 26%