หุ้นปิดบวก 2.92 จุด รีบาวรด์ไม่ไกลหลังโควิด-19 ในประเทศไม่ดีขึ้น หวั่นถูก Down Grade ทั้งในส่วน GDP และ EPS ส่งผลให้ Sentiment ตลาดเริ่มไม่ดีจากการมองเศรษฐกิจที่แย่จากผลกระทบโควิด-19 สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงจะปรับตัวลง
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีความอ่อนแอสูง ดัชนีมีการเด้งตัวหลังจากลงทดสอบ 1,510 จุด ทั้งนี้ มองว่าสัปดาห์นี้รีบาวนด์ไม่ไกล ให้กรอบไว้ 1,545-1,510 จุด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไม่ดีขึ้น และคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดในต่างจังหวัดจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นในเดือน ก.ย. จึงยังไม่จำเป็นจะต้องรีบซื้อหุ้น
นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่จะโดน Down Grade ทั้งในส่วน GDP และ EPS ส่งผลให้ Sentiment ตลาดเริ่มไม่ดี จากการมองเศรษฐกิจที่แย่จากผลกระทบโควิด-19 ขณะที่เศรษฐกิจทางฝั่งตะวันตกเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นหากจะซื้อหุ้นให้เลือกหุ้นที่ลงลึกแล้วทยอยสะสมได้ อย่างหุ้น AMATA
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.5% ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบราว 0.5% โดยต่างรอติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 27-28 ก.ค. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ให้จับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะส่งสัญญาณอะไรออกมา ซึ่งอาจจะกดดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง และสร้างแรงกดดันให้ Emerging Market ได้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,531.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.92 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 77,166.69 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) นายสรพล กล่าวว่า ตลาดคงจะปรับตัวลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,510-1,525 จุด
