เอเชีย กรีน เอนเนอจี ครึ่งปีแรก 2564 กวาดยอดขายถ่านหิน 2.8 ล้านตัน ส่งผลรายได้รวมอยู่ที่ 5,807.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.4% กำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.4% พร้อมประกาศครึ่งปีหลังขอเดินหน้าลุยธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ คลังสินค้า แบบเต็มสูบ คาดผลงานปีนี้เข้าเป้า 11,000 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร (ขนส่งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ คลังสินค้า) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการโลจิสติกส์ จำนวน 5,807.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 5,597.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 209.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำไรสุทธิแตะระดับที่ 121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 136.4% ที่มีกำไรสุทธิ 51.3 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการโลจิสติกส์ จำนวน 2,960.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.5 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 2,853.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.9 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 106.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิที่ 0.4 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุการปรับตัวเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 นั้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์การขายโดยเจาะตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 2.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 57.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ณ ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อถ่านหินในมือ (Back log) ประมาณ 0.67 ล้านตัน และคาดว่าจะทยอยส่งมอบทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง
ประกอบกับภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินโลกมีการฟื้นตัวจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลราคาถ่านหินโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 165% เมื่อเทียบราคาปัจจุบัน กับราคาค่าเฉลี่ยของถ่านหินโลกในปีที่ผ่านมา
ส่วนรายได้จากการให้บริการโลจิสติกส์ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีการให้บริการท่าเรือรองรับการขนส่ง จำนวน 6 ท่า เรือลำเลียง 36 ลำ รถบรรทุก 68 คัน และโกดังสินค้า 5 หลัง ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้ จำนวน 946 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากภายในส่วนงาน ที่ 736 ล้านบาท และรายได้จากกลุ่มลูกค้าภายนอกที่ 209.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลัง AGE ยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเชิงรุกในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการเข้าไปบริหารจัดการท่าเรือเพิ่มอีก 3 ท่า ส่งผลให้มีท่าเรือที่รองรับการให้บริการขนส่งทางน้ำรวมทั้งหมด 6 ท่า บริเวณอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะช่วยหนุนให้ AGE สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ AGE ยังเดินหน้าลงทุนขยายกองรถบรรทุกเป็นกว่า 100 คัน ในปี 2564 จากที่ปัจจุบันมีรถบรรทุกอยู่ 68 คัน และมีรถบรรทุกเป็นพันธมิตรผู้รับจ้างงานช่วง (Sub-contractor) อีก 400-500 คัน รวมถึงขยายกองเรือโดยการเช่าและการหากองเรือพันธมิตร Sub-contractor เพื่อเพิ่มปริมาณบรรทุกสินค้าเป็น 200,000 ตัน จากที่ปัจจุบัน AGE มีกองเรืออยู่ 36 ลำ ปริมาณการบรรทุกสินค้ารวมกว่า 100,000 ตัน เพื่อรองรับปริมาณการขนส่งทั้งถ่านหิน และสินค้าในกลุ่มทรายแก้วเพื่อผลิตขวด กระดาษ ไม้สับ ขี้เลื่อย และกะลาปาล์ม เป็นต้น ซึ่งจะหนุนให้รายได้จากธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ในอนาคตเติบโตเพิ่มขึ้น เพื่อการสู่การขนส่งด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมการเติบโตรายได้ของบริษัทฯ ไว้ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจากธุรกิจถ่านหิน 90% จากการตั้งเป้ายอดขายที่ 5.5 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 4.5 ล้านตัน และต่างประเทศ 1 ล้านตัน และรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 10% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท