นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก เป็นผลมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยภายในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ บริษัทเตรียมจำหน่ายสินค้าใหม่ คือ อุปกรณ์ใช้สำหรับควบคุมการไหลของออกซิเจน (Oxygen High Flow) และเครื่องผลิตออกซิเจนในความเข้มข้นที่สูง (Oxygen Concentrator) ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการมากในการดูแลผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงเครื่องฟอกอากาศใช้ภายในบ้านที่มีไอออนช่วยการดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 (Antigen test kit) ที่บริษัทเริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่เดือนก.ค.64 ล่าสุด มียอดออเดอร์เข้ามาแล้วกว่า 70 ล้านบาท ส่วนสินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองที่ปัจจุบันมีความต้องการเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ สเปรย์ปรับอากาศฆ่าเชื้อโรค หน้ากากอนามัย และชุด PPE ยังคงมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทในครึ่งปีหลังนี้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะส่งผลให้รายได้รวมในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ 650-700 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้ากว่า 293 ล้านบาท
"จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หน่วยงานรัฐ และองค์กรเอกชน ตระหนักถึงความปลอดภัยจากไวรัสดังกล่าว TM ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความมุ่งมั่นในการให้บริการของบริษัทฯ ผ่านแพลตฟอร์ม TM CARE SHOP และช่องทางออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ เดินหน้าปรับกลยุทธ์ทิศทางครึ่งปีหลัง เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ดังกล่าว" นางสุนทรี กล่าว
ด้านความคืบหน้าของการดำเนินการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางภายใต้โครงการ "THE PARENTS" ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมในการก่อสร้างอาคาร Nursing Home เพื่อใช้เป็นสถานที่รับดูแลผู้สูงอายุทุกภาวะ เฟส 2 คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้เดือน ต.ค.นี้ จากก่อนหน้านี้ได้มีการก่อสร้างในเฟสแรกไปแล้วช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คาดว่าศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 66 ซึ่งหากแผนขยายธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลให้บริษัทฯ ทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้เข้ามาเฉลี่ย 100-150 ล้านต่อปี โดยรายได้ดังกล่าวเข้ามาชัดเจนตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ประจำ (Recurring income) ให้มีความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 64 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า จำนวน 293.58 ล้านบาท ลดลง 15.31 ล้านบาท หรือ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเฉพาะยอดขายจากสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจลดลง ประกอบกับการแข่งขันด้านราคามีความรุนแรงสูง อีกทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้า เช่น ค่าขนส่งทางเรือ และทางอากาศมีการปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิ (งบการเงินเฉพาะกิจการ ) อยู่ที่ระดับ 29.74 ล้านบาท แต่มีขาดทุนสุทธิ (งบการเงินรวม) จำนวน 0.67 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรจากการขายที่ดินให้ TMNC จำนวน 28.60 ล้านบาท ขณะที่มีขาดทุนเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปี 63 เนื่องจากยอดขายลดลง และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน (ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น) และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากกาไรขายที่ดินของบริษัทใหญ่
