JR วางเป้าปี 65 เข้าชิงงานระบบไฟฟ้า-สื่อสารกว่า 7 พันล้านบาท พร้อมรุกขยายงาน Oil&Gas ซึ่งเป็นงานในด้านการวางระบบ IT Solution Base และปิโตรเคมี ด้าน Plant Construction และ Instrumental Equipment ในระบบงานไฟฟ้า
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างรอเสนอราคาทั้งสิ้นราว 188 ล้านบาท แบ่งเป็นงานระบบไฟฟ้า 20 ล้านบาท และงานระบบสื่อสารอีกประมาณ 167 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีมีมูลค่างานบริษัทเข้าประมูลทั้งหมด 744.12 ล้านบาท
ขณะที่ในปี 65 บริษัทวางแผนเข้าประมูลงานวางระบบไฟฟ้าและงานวางระบบสื่อสารมูลค่ารวมกว่า 7 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 6.7 พันล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 350 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ที่ 2.1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 65 จำนวน 2.4 พันล้านบาท ปี 66 ที่ 1.1 พันล้านบาท และปี 67 ที่ 106 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าธุรกิจหลักของบริษัทไม่ว่าจะเป็น งานวางระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานจำหน่ายอุปกรณ์และงานบริการบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูเฟส 2 รวมทั้งงานปรับระบบสาธารณูปโภคของรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีม่วง ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งเป็นงานนอกเหนือจากงานวางระบบไฟฟ้าที่บริษัทได้สัญญามาแล้ว
บริษัทยังได้ขยายงานประเภท OIL&GAS มากขึ้น ซึ่งเป็นงานในด้านการวางระบบ IT Solution Base และกำลังศึกษาการขยายงานในส่วนงาน OIL&GAS และปิโตรเคมี ด้าน Plant Construction และ Instrumental Equipment ในระบบงานไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเข้าไปรับงานวางระบบติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าจาก บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ซึ่งมีแผนจะสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่สำหรับขนส่งสาธารณะทั้งรถเมล์ไฟฟ้าและเรืออีกด้วย
นายจรัญ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทางบริษัทเองได้พยายามทำงานที่มีอยู่และพยายามรักษารายได้ตามที่ประมาณการไว้ สำหรับช่วงครึ่งปีที่เหลือบริษัทมองว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบอยู่ในไตรมาส 3/64 แต่จะเริ่มคลี่คลายลงในช่วงไตรมาส 4/64
ด้านการดำเนินงานใน กทม.ยังสามารถทำงานได้ในบางส่วนตามมาตรการผ่อนคลาย โดยเฉพาะในจุดที่เป็นงานใต้ดินหรืองานลงเคเบิล ในส่วนของงานต่างจังหวัดแม้จะมีทีมงานบางส่วนที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังมีบุคลากรเข้าไปชดเชย ทำให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้
นายจรัญ กล่าวอีกว่า การที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากลักษณะงานของบริษัทเป็นงานโครงการขนาดใหญ่ ผูกสัญญาระยะยาว 3 ปี บริษัทจึงได้ทำการสั่งซื้อเรียบร้อยหมดแล้ว ตั้งแต่เริ่มสัญญา และจะทยอยส่งมอบเป็นครั้งๆ ไปตามความต้องการที่จะใช้
"ปัจจุบันราคาทองแดงมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก แต่เนื่องจากการผูกสัญญาระยะยาวทำให้ทั้ง JR และ Supplier ต้องมีการจองวัตถุดิบล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเป็นจุดเด่นในการบริหารการเงินและการบริหารความเสี่ยงเรื่องวัตถุดิบได้" นายจรัญ กล่าว