ห้วงนี้ตลาดหุ้นไทยยังต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายประการทำให้ หุ้นพื้นฐานดี จาก SET100 หลายตัวปรับย่อลงลึก ตั้งแต่ช่วงการระบาดระลอก 3 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และเลือกจากหุ้นที่ยังเหลืออัพไซด์ตั้งแต่ 30% หรือใกล้เคียง 30% ขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ 9หุ้น ชื่อดังมีสตอรี่ และมีโอกาสรีบาวด์ได้ในอนาคต
1.KBANK (บมจ.ธนาคารกสิกรไทย) จากราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 104.50 บาท เหลืออัพไซด์ 55.98% (จากราคาเป้าหมาย 163.00 บาท) ช่วงเดือนมี.ค.64 เคยทำนิวไฮของปีขึ้นไปถึง 153.00 บาท ก่อนจะมาเจอโควิด-19 ระลอก 3 เมื่อต้นเดือน เม.ย. ราคาร่วงลงมาแถว 145.00 บาท จนมาทำจุดต่ำสุดของปีในวันที่ 2 ส.ค.64 ราคา 101.00 บาท
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 153.00 บาท กับล่าสุด 104.50 บาท ลดลง 48.50 บาท หรือ -31.70% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -7.52% และถ้าเทียบกับหุ้นกลุ่มเดียวกัน 11 ตัว KBANK มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก SCB , ค่า P/E 7.38 เท่า เป็นอันดับ 11 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 0.55 เท่า เป็นอันดับ 7 ในกลุ่ม
2.BBL (บมจ.ธนาคารกรุงเทพ) จากราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 103.00 บาท เหลืออัพไซด์ 50.48% (จากราคาเป้าหมาย 155.00 บาท) จากสถิติวันที่ 9 ก.พ.64 เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 131.00 บาท พอมาช่วงระบาดระลอก 3 ดร๊อปลงเหลือ 126.00 บาท และไปทำสถิติต่ำสุด 100.00 บาท ในวันที่ 3 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 131.00 บาท กับล่าสุด 103.00 บาท ลดลง 28.00 บาท หรือ -21.37% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -13.08% และถ้าเทียบกับหุ้นกลุ่มเดียวกัน 11 ตัว BBL มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 4 , ค่า P/E 11.97 เท่า สูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 0.43 เท่า สูงเป็นอันดับ 10 ในกลุ่ม
3.PTT (บมจ. ปตท.) ราคาล่าสุด (6 ส.ค.64) ปิด 34.50 บาท เหลืออัพไซด์ 39.85% (จากราคาเป้าหมาย 48.25 บาท) ปี 64 ราคาเคยพุ่งไปถึง 45.00 บาท ในวันที่ 13 ม.ค.64 ต่อมาเมื่อเข้าสู่การระบาดระลอก 3 ราคาดิ่งลงมาเหลือ 41.00บาท เมื่อ 31 มี.ค.64 และกราดรูดลงมาต่ำสุดของปีที่ราคา 34.75 บาท ในวันที่ 30 ก.ค.64
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 45.00 บาท กับล่าสุด 34.50 บาท ลดลง 10.50 บาท หรือ -23.33% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -18.82% และถ้าเทียบในกลุ่มพลังงาน 61 ตัว PTT มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 1, ค่า P/E 13.70 เท่า สูงเป็นอันดับ 31 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 1.03 เท่า สูงเป็นอันดับ 44 ในกลุ่ม
4.SAWAD (บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น) 10 วันล่าสุดปิดติดลบ 7 วัน ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 66.50 บาท เหลืออัพไซด์ 34.59% (จากราคาเป้าหมาย 89.50บาท) ปี 64 เมื่อ 20 เม.ย.64 ราคาทะยานไปถึง 94.25 บาท ต่อมาเมื่อเข้าสู่การระบาดระลอก 3 เหลือ 85.25 บาท เมื่อ 31 มี.ค.64 ขณะที่ราคาต่ำสุดในรอบปี คือ 62.25 บาท (23 ก.พ.64)
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 94.25 บาท กับล่าสุด 66.50 บาท ลดลง 27.75 บาท หรือ -29.44% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ +1.14% และถ้าเทียบในกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ 37 ตัว SAWAD มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 3, ค่า P/E 18.88 เท่า สูงเป็นอันดับ 14 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 3.87 เท่า สูงเป็นอันดับ 10 ในกลุ่ม
5.PTTEP (บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 104.50 บาท เหลืออัพไซด์ 33.97% (จากราคาเป้าหมาย 140.00 บาท) ปี 64 ราคาเคยแรงถึง 125.00 บาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.64 และเมื่อระบาดระลอก 3 ราคาลงเหลือ 114.00 บาท ขณะปีนี้ราคาต่ำสุดคือ 96.25 บาท เมื่อ 4 ม.ค.64
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 125.00 บาท กับล่าสุด 104.50 บาท ลดลง 20.50 บาท หรือ -16.40% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ +6.36% และถ้าเทียบในกลุ่มพลังงาน 61 ตัว PTTEP มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 3 , ค่า P/E 14.61 เท่า สูงเป็นอันดับ 29 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 1.08 เท่า สูงเป็นอันดับ 40 ในกลุ่ม
6.TTB (บมจ.ธนาคารทหารไทยธนชาต) ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 0.97 บาท เหลืออัพไซด์ 31.96% (จากราคาเป้าหมาย 1.28 บาท) ปี 64 เคยทำราคาขึ้นไปถึง 1.27 บาท ในวันที่ 2 เม.ย.64 จากนั้นก็ย่อลงต่อเนื่องอีก 3 เดือน ต่อมา ในวันที่ 2 ส.ค.64 ทำจุดต่ำสุดในรอบปีที่ราคา 0.95 บาท และถ้าเทียบจากเริ่มระบาดระลอก 3 ถึงปัจจุบันยังลบอยู่ -21.14%
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 1.27 บาท กับล่าสุด 0.97 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -23.62% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -10.19% และถ้าเทียบกับหุ้นกลุ่มเดียวกัน 11 ตัว TTB มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 6 , ค่า P/E 10.71 เท่า สูงเป็นอันดับ 6 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 0.45 เท่า สูงเป็นอันดับ 9 ในกลุ่ม
7.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 41.00 บาท เหลืออัพไซด์ 30.49% (จากราคาเป้าหมาย 53.50 บาท) ปี 64 เคยทำผลงานพุ่งไปถึง 56.00 บาท ในวันที่ 13 ม.ค.64 ต่อมาระบาดระลอก 3 เมื่อ 1 เม.ย.64 เหลือ 45.75 บาท จากนั้นก็ทรงๆ มาพีคราคาต่ำสุดในรอบปี เมื่อ 3 ส.ค.64 ราคา 39.00 บาท
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 56.00 บาท กับล่าสุด 41.00 บาท ลดลง 15.00 บาท หรือ -26.78% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -15.46% และถ้าเทียบในกลุ่มพลังงาน 61 ตัว BGRIM มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 7, ค่า P/E 39.51 เท่า สูงเป็นอันดับ 7 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 3.69 เท่า สูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม
8.BEM (บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 7.70 บาท เหลืออัพไซด์ 29.87% (จากราคาเป้าหมาย 10.00 บาท) ปี 64 เคยทำราคาทะยานไปถึง 8.85 บาท เมื่อ 17 มิ.ย.64 ต่อมาระบาดระลอก 3 ลดลงเหลือ 8.75 บาท จากนั้นทำราคาเกิน 8.00 บาท ได้เมื่อ 23 ก.ค.64 ก่อนลงไปปิดที่ 7.85 บาท ขณะที่ปีนี้ราคาต่ำสุด 7.40 บาท เมื่อ 17 พ.ค.64
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 8.85 บาท กับล่าสุด 7.70 บาท ลดลง 1.15 บาท หรือ -12.99% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -7.23% และถ้าเทียบในกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ 27 ตัว BEM มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 2 , ค่า P/E 63.66 เท่า สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 3.06 เท่า สูงเป็นอันดับ 11 ในกลุ่ม
9.BTS (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) ราคาล่าสุด 6 ส.ค.64 ปิด 8.40 บาท เหลืออัพไซด์ 29.76% (จากราคาเป้าหมาย 10.90 บาท) ปี 64 ทำราคาสูงสุด 10.10 บาท (11 ม.ค.64) ต่อมาระบาดระลอก 3 เหลือ 9.65 บาท จากนั้นทำราคาต่ำสุด 8.35 บาท (2 ส.ค.64) แล้วขยับขึ้นมาเล็กๆ ในปัจจุบัน
และถ้าเทียบกับจุดสูงสุด 10.10 บาท กับล่าสุด 8.40 บาท ลดลง 1.70 บาท หรือ -16.83% , ขณะอัตราผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -9.68% และถ้าเทียบในกลุ่มตัว BTS มีมาร์เกตแคปใหญ่เป็นอันดับ 3 , ค่า P/E 24.17 เท่า สูงเป็นอันดับ 9 ในกลุ่ม , ค่า P/BV 1.84 เท่า สูงเป็นอันดับ 15 ในกลุ่ม
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มแบงก์ แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 /64 กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น แต่ยังกังวลแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะพุ่งขึ้น จากผลกระทบโควิด-19 ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ นั่นเอง