ไมอามี่กลายเป็นเมืองแรกที่มีโทเคนของตัวเอง โดยเปิดตัว “ไมอามี่คอยน์” เมื่อวันอังคาร (3) เพื่อให้ผู้สนใจลงทุนและร่วมอัดฉีดโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานและกิจกรรมต่างๆ ของเมือง ตอกย้ำเป้าหมายในการทำให้ “แมจิกซิตี้” ขึ้นเป็นเมืองหลวงคริปโต
โทเคนนี้เป็นการร่วมมือระหว่างเมืองไมอามี่กับซิตี้คอยน์ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือเมืองต่างๆ ที่ต้องการออกโทเคนเพื่อการลงทุน และนำเสนอผลตอบแทนเป็นบิตคอยน์ (BTC) หรือสแต็กส์ (STX)
ไมอามี่หรือที่เรียกขานกันว่า “แมจิกซิตี้” จะเป็นเมืองแรกที่ออกโทเคนภายใต้ความช่วยเหลือของซิตี้คอยน์ และซานฟรานซิสโกจะเป็นรายต่อไปในอีกไม่นานนี้
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของซิตี้คอยน์ ไมอามี่คอยน์จะสร้างรายได้ให้เมืองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ผลตอบแทนเป็น STX และ BTC สำหรับผู้ถือเหรียญ
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการสนับสนุนแมจิกซิตี้สามารถขุดหรือซื้อไมอามี่คอยน์ (MIA) และรับผลตอบแทนเป็นคริปโตจากสแต็กส์ ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่รองรับสมาร์ทคอนแทร็กต์และทำงานบนเครือข่ายบิตคอยน์
ผู้ที่ต้องการขุดไมอามี่คอยน์จะต้องส่งโทเคน STX ผ่านโปรโตคอลสแต็กส์ โดย 30% ของโทเคนเหล่านี้จะเข้าสู่วอลเล็ตของเมืองไมอามี่ที่จะนำไปใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอื่นๆ ซึ่งตามคำบอกเล่าของนายกเทศมนตรีฟรานซิส ซัวเรซนั้น จะรวมถึงการช่วยเหลือคนไร้บ้านหรือแผนการริเริ่มในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสำนักงานตำรวจ และอีก 70% เป็นของผู้ขุดที่จะได้รับผลตอบแทนเป็น STX และ BTC
ซิตี้คอยน์แจงว่า แม้ตามกฎหมายของอเมริกาห้ามไม่ให้เมืองต่างๆ ออกสกุลเงินของตัวเอง ดังนั้น ผู้ครอบครอง MIA จึงไม่สามารถนำไปใช้จ่ายได้แม้แต่ในไมอามี่ อย่างไรก็ดี ชุมชนซิตี้คอยน์จะพัฒนาแอปที่ใช้โทเคนเป็นรางวัล เทรด กู้ยืม ทำสัญญาอัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น นำไปแลกส่วนลดที่สามารถใช้กับห้างร้านในท้องถิ่น
การเปิดตัว MIA เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในโปรเจ็กต์พัฒนาคริปโตของไมอามี่ หลังจากที่ซัวเรซปักหมุดเมื่อต้นปีว่า ต้องการให้ไมอามี่เป็นเมืองที่มีศักยภาพการแข่งขันด้านคริปโตสูงสุดในโลก โดยเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ไมอามี่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมบิตคอยน์ 2021 ที่นอกจากเป็นเวทีประชุมคริปโตใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเลของเอลซัลวาดอร์ ประกาศยอมรับบิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเป็นประเทศแรกของโลก
เมื่อไม่นานมานี้ ซัวเรซยังผลักดันการชำระเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์ และโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งของเมืองนี้กลายเป็นโครงการที่จ่ายด้วยคริปโตในราคาสูงสุดถึง 22.5 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซัวเรซยังเชิญชวนเหมืองบิตคอยน์ในจีนให้ย้ายไปขุดเหรียญในไมอามี่เพื่อหนีกฎระเบียบและการปราบปรามของปักกิ่ง
นิวส์วีกรายงานว่า ซัวเรซเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไมอามี่จะมีรายได้หลายล้านดอลลาร์จากความนิยมใน MIA เนื่องจากแมจิกซิตี้ได้กลายเป็นเมืองหลวงบิตคอยน์ของโลกเป็นที่เรียบร้อย
ที่เอเชีย โซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้มีไอเดียคล้ายกัน โดยมีแผนออกโคเทน “เอส-คอยน์” ตั้งแต่ปี 2018 เพื่อใช้ชำระค่าบริการสาธารณะต่างๆ ในเมือง อย่างไรก็ดี โปรเจ็กต์นี้ถูกเลื่อนเป็นอย่างเร็วที่สุดปีหน้า
เช่นเดียวกับเอคอน แรปเปอร์เซเนกัลที่เล็งสร้างเมืองแห่งอนาคตที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และสร้างสกุลเงินดิจิตอลของเมืองโดยใช้ชื่อตัวเองว่า “เอคอยน์”