AMR ไอพีโอป้ายแดงผู้เชี่ยวชาญระบบคมนาคมขนส่งและเมืองอัจฉริยะ หุ้นมีอัปไซด์เพียบ เปรียบเทียบจากราคา Fair Value ปี 2564 ที่ 3 โบรกเกอร์ดังประเมินเอาไว้ในช่วง 8.00-8.70 บาท ส่วนปี 2565 อยู่ที่ 9.70-9.76 บาท พร้อมประเมินผลงานเติบโตแบบก้าวกระโดดตามเมกะเทรนด์ ทั้งงานด้านคมนาคมในระบบรางที่มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาล รวมถึงงานไอซีทีเป้าหมายที่เป็นพื้นฐานระบบ Smart Cities ใน 2-3 ปีจากนี้ ฟากผู้บริหาร "มารุต ศิริโก" โชว์ Backlog Q1/2564 พร้อมทยอยรับรู้รายได้ราว 1.4 พันล้านบาท และครึ่งปีหลังยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างยื่นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงการในปีนี้ อนาคตหวังคว้างานใหม่เติมพอร์ตปีละไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ประกาศนำเงินจากไอพีโอต่อยอดธุรกิจลุยสุดตัว Feeder Line - Smart City - EV Charging Station ดันผลงานติดปีก
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR โดยระบุว่า เป็นหุ้นที่ตอบรับโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 เนื่องจาก AMR ประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชัน (System Integrator) แบบครบวงจร ซึ่งหากพิจารณาจากงานในอดีตและงานในมือกลุ่มลูกค้าของ AMR จะเน้นไปที่งานวางระบบคมนาคมขนส่ง (Transportation Solution : TS) โดยในปี 2563 รายได้จากงานประเภท TS คิดเป็นราว 65.5% ของรายได้รวม และรายได้จากงานวางระบบไอซีทีและซิสเต็มโซลูชัน (ICT and System Solution : ISS) ในปี 2563 คิดเป็นราว 23.7% ของรายได้รวมจะเห็นว่าโครงสร้างธุรกิจของ AMR สอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.2561-2580 ของภาครัฐ
ประเด็นถัดมาคือรายได้ประมาณ 70% ของ AMR เป็นรายได้จากงานประเภท TS เช่น ระบบเดินรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบในการดำเนินงานและงานซ่อมบำรุง ซึ่งอิงไปกับการพัฒนาระบบรางและระบบคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ดังนั้น แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะงานระบบราง (รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล) ที่คาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนราว 1.7 ล้านล้านบาท จากประวัติการทำงานในอดีต (Track record) ทำให้คาดว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะระบบรางจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจ IT Solution อย่าง AMR ด้วย
นอกเหนือจาก Backlog ในมือ AMR ยังมีงานรอประมูลอีกราว 8 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้รายได้เติบโต +7% CAGR (2563-2566) อย่างไรก็ดี ทางบริษัทได้คำนึงถึงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากการประมูลงานโครงการ จึงวางเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากงานประเภทงานให้บริการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง หรือ Maintenance Agreement (MA) ภายในปี 2565 ซึ่งงานประเภท MA จะเป็นรายได้ประเภท Recurring income ที่ต่อเนื่องและมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง
ฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2564 ได้เท่ากับ 8.7 บาท อิง PE 30 เท่า โดย Discount -14% จากค่าเฉลี่ย Forward PE ของหุ้นกลุ่ม Business Solution ที่เน้นงานด้านเทคโนโลยีที่ 35 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด ได้ประเมินเกี่ยวกับ AMR ว่ามี Fair Value ปี 2564 เท่ากับ 8.58 บาทต่อหุ้น และปี 2565 เท่ากับ 9.76 บาทต่อหุ้น อ้างอิงวิธี PE ที่ 26 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Conservative ปรับลดจากค่า P/E เฉลี่ยย้อนหลังของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่จดทะเบียนในตลาดต่างประเทศที่ราว 32 เท่า คำนวณบน EPS ปี 2564 ที่ 0.33 บาทต่อหุ้น และปี 2565 ที่ 0.38 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ โดยยังไม่รวม Upside จากแผนการใช้เงินที่ได้จากการ IPO เพื่อลงทุนต่อยอดธุรกิจในประมาณการ
โดยระบุว่า ความน่าสนใจในการลงทุน AMR มาจากทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 20 ปี เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชัน (SI) สัญญาติไทยรายเดียวที่มี Track Record ด้านงาน Turnkey ระบบเดินรถไฟฟ้าระดับเมกะโปรเจกต์ของประเทศ
พร้อมทั้งประมาณการว่า AMR จะมีรายได้และกำไรต่อเนื่องจากงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสประมูลงานใหม่ คาดการณ์ Backlog และโอกาสคว้างานประมูลเพิ่มในช่วงปี 2564-2566 กว่า 8,000 ล้านบาท ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบคมนาคมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบกับการขยายฐานรายได้งานบำรุงรักษา (MA) ซึ่งเป็นรายได้ประจำต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากงานโครงการและเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ คาดรายได้รวมเติบโต (CAGR) ปี 2563-2566 ราว 8.3% ต่อปีและคาดกำไรสุทธิปี 2563-2566 เติบโตราว 7.4% ต่อปี โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นปี 2562-2563 อยู่ที่ 18.3% และ 20.6% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ฐานะการเงินของ AMR ยังแข็งแกร่ง ก่อนการ IPO บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.01 เท่า โดยมีสถานะเป็น Net Cash มีเงินสดในมือสูง และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่าภายใต้จุดแข็งด้านวิจัยพัฒนาสินค้า และบริการตรงตามความต้องการลูกค้า ทำให้ AMR ได้รับงานจากผู้ให้บริการระบบรางหลักของประเทศเสมอ จึงพร้อมเติบโตไปกับเม็ดเงินลงทุนระบบรางมหาศาลของรัฐ รวมถึงงานไอซีทีเป้าหมายที่เป็นพื้นฐานระบบ Smart Cities ใน 2-3 ปีจากนี้ ประเมินกว่าปีละ 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เงิน IPO จะใช้รองรับปริมาณงานที่เข้ามาในอนาคต และลงทุนเป็นผู้ให้บริการระบบรางสายรอง (Feeder Line) และ Smart Cities ภายใต้สมมติฐานไม่รวมการลงทุนในโครงการให้บริการดังกล่าวที่นำเงิน IPO มาใช้อยู่ในราคา Fair Value คาดกำไรปี 2564-2566 เติบโตเฉลี่ยปีละ 16.8% มูลค่าหุ้นปี 2564 อิง PER 25 เท่า อยู่ที่ 8.0 บาท ส่วนปี 2565 จะเพิ่มเป็น 9.70 บาท
ด้านนายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2564 บริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เรียบร้อยแล้วราว 1.4 พันล้านบาท และครึ่งปีหลังยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างยื่นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงการในปีนี้ บริษัทคาดรับรู้อัตรากำไรปีนี้ปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยในแต่ละปีคาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตไม่น้อยกว่าปีละ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะหนุนให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการที่สร้างรายได้ประจำ เช่น Feeder Line - Smart City - EV Charging Station จากเงิน IPO เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในอนาคตอันใกล้นี้
"หลังจากได้รับเงินจากการขายไอพีโอในครั้งนี้ AMR จะแบ่งเงินออกมาสัดส่วนราว 85% นำไปใช้ในการลงทุนเพื่อต่อยอดสร้างผลตอบที่ดีขึ้น โดยเบื้องต้น มีแผนที่จะขยายการลงทุนในด้าน Feeder Line - Smart City - EV Charging Station เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ลดความผันผวนธุรกิจ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น" นายมารุต กล่าวในที่สุด