"บลูบิค กรุ๊ป" เตรียมเสนอขาย IPO 25 ล้านหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ชูความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้แบบครบวงจร ด้วยทีมบุคลากรคุณภาพ ช่วยปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจและผลักดันการเติบโตให้แก่องค์กรขนาดใหญ่
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า บลูบิคมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างครบวงจร พร้อมทีมบุคลากรมากประสบการณ์จากบริษัทคอนซัลต์ระดับโลกกว่า 100 คน ที่พร้อมช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจให้แก่องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสู่ยุคดิจิทัลและสร้างการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด โดยปัจจุบันบริษัทฯ มี 5 บริการหลัก ได้แก่
1.บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting) โดยทำหน้าที่ค้นหาปัจจัยความสำเร็จทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า กำหนดทิศทางกลยุทธ์ด้านต่างๆ วิเคราะห์ผลกระทบและโอกาสเชิงเศรษฐศาสตร์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเติบโตอย่างก้าวกระโดด (Exponential Growth)
2.บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic PMO) โดยทำหน้าที่บริหารโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูงให้องค์กรขนาดใหญ่ และเข้าไปวางโครงสร้างระบบไอทีภายในองค์กร
3.บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery) โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านดิจิทัลครบวงจรและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กร เช่น การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งานและส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบ (UX/UI) บนหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
4.บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Big Data & Advanced Analytics) โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงให้คำแนะนำการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล เพื่อนำไปใช้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม
5.บริการด้านทรัพยากรบุคคลชั่วคราวที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที (IT Staff Augmentation) โดยทำหน้าที่จัดหาพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านไอที เช่น โปรแกรมเมอร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อปฏิบัติงานตามกำหนดระยะเวลาจนจบโครงการ
นายพชร กล่าวต่อว่า บลูบิคมีแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตทั้งสิ้น 7 ด้าน ได้แก่ 1.การเพิ่มบุคลากรและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ตลอดจนวางแผนพัฒนาศูนย์การพัฒนาทักษะ (Learning Academy Center) 2.พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Software as a Service หรือ SaaS) รวมถึงจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Center) 3.เสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายในผ่านการยกระดับระบบซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร 4.ขยายพื้นที่สำนักงานรองรับการเพิ่มบุคลากร 5.ชำระเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน 6.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ และ 7.ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องและมีศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตและรับมือความผันผวนของตลาด
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2561-2563 มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งกำไรและรายได้จากการขายและให้บริการ โดยมีกำไรสุทธิคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 51.81% ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 132.76 ล้านบาท 184.94 ล้านบาท และ 200.53 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 22.90% ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 มีรายได้จากการขายและบริการ 49.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อเข้าสู่ดิจิทัลของลูกค้า อีกทั้งบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีกำไรสุทธิ 12.34 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.78% ของรายได้จากการขายและให้บริการ ซึ่งเติบโตขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิที่ 22.06% ของปี 2563
นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กล่าวว่า บลูบิคเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลและสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสู่ดิจิทัล เพื่อรองรับเป้าหมายการเพิ่มศักยภาพและเร่งการเติบโตภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น บริษัทฯ จึงเดินหน้าขยายทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จากบริษัทระดับโลก ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักต่อการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เช่น Management Consultant, Technology Consultant และ Project Manager ตลอดจนจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะบุคลากรและมุ่งเน้นพัฒนาระบบงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในการออกแบบนวัตกรรมเพื่อนำเสนอโซลูชันด้านเทคโนโลยี
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมเปิดรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและต่อยอดสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ล่าสุด ได้เดินหน้าความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) เพื่อเติมเต็มนวัตกรรมและศักยภาพด้านดิจิทัลสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
ด้าน นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความคืบหน้าการนำ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หลังจากยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว โดยภายหลังได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบ Filing มีผลใช้บังคับจะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอภายในปีนี้