หุ้นไทยปิดร่วง 15.86 จุด กังวลรัฐออกมาตรการเข้มสกัดโควิด-19 หลังจากที่การแพร่ะบาดในประเทศไม่ดีขึ้น ทั้งนี้ ภาระของภาครัฐทำให้หนี้สินประเทศเพิ่มขึ้น และมาตรการยิ่งเข้มก็อาจทำให้รัฐกู้เงินเพิ่มได้อีก ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเรื่องค่าเงิน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าคาดตลาดคงจะแกว่งตัว
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงจากความกังวลผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่จะมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เข้มขึ้น หลังจากที่การแพร่ะบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไม่ดีขึ้น และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศทำให้รัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากมาตรการที่เข้ม และยังจะส่งผลกระทบต่อ GDP ไปด้วย
ทั้งนี้ ภาระของภาครัฐทำให้หนี้สินประเทศเพิ่มขึ้น และมาตรการยิ่งเข้มอาจทำให้รัฐกู้เงินเพิ่มได้อีก ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเรื่องค่าเงิน ดังนั้น การแพร่ระบาดไม่ได้มองที่คนติดเชื้อมากอย่างเดียว แต่มองถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หนี้สินของประเทศ และค่าเงินด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ติดลบกัน โดยตลาดหลักอย่างตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ติดลบกันหมด จากความกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี และฝั่งฮ่องกงวิตกจีนจะเข้ามาแทรกแซงด้วย ส่วนญี่ปุ่นวิตกการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวลงจากปัจจัยเฉพาะตัว
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,521.92 จุด ลดลง 15.86 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.03% มูลค่าการซื้อขาย 87,720.54 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายมงคล กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,500-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด ซึ่งหากมาตรการเข้มที่ออกมาเป็นล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทำให้ดัชนีมีโอกาสลงต่ำกว่าระดับ 1,500 จุดได้ แต่คิดว่าไม่น่าจะใช้ พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบกาของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19