น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวมีแรงซื้อสลับกับแรงขาย เนื่องจากนักลงทุนรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีขึ้นในคืนวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งผลการประชุมปรากฏว่าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% โดยประธานเฟดระบุว่า จะยังคงนโยบายผ่อนคลายด้านการเงินไปจนกว่าจะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะตลาดแรงงานซึ่งขณะนี้ยังต้องจับตามองอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอทำให้ยังห่างไกลจากการหารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง ขณะเดียวกัน ราคาทองคำได้ปรับพุ่งขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ย
สำหรับปัจจัยอื่นที่มีผลต่อราคาทองคำนั้นมาจากประเด็นสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจจะกลับมาเป็นที่น่าจับตา เนื่องจากสหรัฐฯ สำรวจพบว่าจีนกำลังสะสมอาวุธนิวเคลียร์ 110 แห่งในมลฑลซินเจียง ทำให้สหรัฐฯ เกิดความวิตกกังวล ปัจจัยนี้จึงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองต่อความตึงเครียดระหว่างประเทศซึ่งประเด็นนี้ส่งผลต่อราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น
ส่วนคำแนะนำสำหรับนักลงทุนนั้นหากราคาทองคำยังแกว่งตัวในทิศทางขึ้นยังมีโอกาสที่จะไปได้ต่อ แนะนำเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยมองแนวรับที่ 1,815-1,803 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,250-28,050 บาท ส่วนแนวต้านมองที่ 1,833-1,841 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,700 บาท ถ้าผ่านได้มีโอกาสไปที่ 1,856-1,872 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,900-29,150 บาท แต่ต้องระวังถ้าหลุด 1,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,850 บาท ให้ตัดขาดทุน