LPN เผยครึ่งปีหลังเดินหน้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่า 6,900 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Villa 168 @ Westgate” เจาะตลาด Gen Y และ Young Affluent มั่นใจปีนี้รายได้รวม 7,000 ล้านบาท ด้าน SC แจงครึ่งปีแรกยอดขาย 11,338 ล้านบาท เติบโต 38% ครึ่งปีหลังเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่า 11,000 ล้านบาท พร้อมลุยซื้อที่ดินใหม่รวมทั้งปีกว่า 10,000 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า ในครึ่งหลังของปี 64 สถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรงต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง 30 วันในเดือน ก.ค.และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดล่าสุด ทำให้บริษัทปรับแผนเปิดโครงการจากเดิมที่ 8-9 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ลดลงมาเหลือเพียง 6 โครงการ มูลค่า 9,600 ล้านบาท
โดยได้เปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการ คือ โครงการ “บ้าน 365 แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง” ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และจะเปิดอีก 5 โครงการ มูลค่า 6,900 ล้านบาท ในครึ่งหลังของปี 64 เป็น โครงการบ้านพักอาศัย 3 โครงการ มูลค่า 1,400 ล้านบาท และอาคารชุดพักอาศัย 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท โดยยังคงตั้งเป้ารับรู้รายได้รวมปี 64 ไว้ที่ 7,000 ล้านบาทตามแผนเดิมที่วางไว้
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวประกอบด้วยบ้านพักอาศัยภายใต้แบรนด์ “Villa 168 @ Westgate” ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวมีบ้านในโครงการเพียง 20 หลัง บนทำเลแนวรถไฟฟ้าบางใหญ่ มูลค่า 226 ล้านบาท และเปิดตัวบ้านพักอาศัยอีก 2 โครงการภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี ทาวน์เพลส” ที่ ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว มูลค่า 600 ล้านบาท และ “ลุมพินี ทาวน์วิลล์” สาย 8-สะพานใหม่ มูลค่า 562 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโครงการอาคารชุด 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ “ลุมพินี วิลล์ จรัญฯ-ไฟฉาย” มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการ “ลุมพินี มิกซ์ นราธิวาส-รัชดา” มูลค่า 2,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลดจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่จาก 8-9 โครงการ เป็น 6 โครงการจะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายยอดขายรวม 10,000 ล้านบาทในปี 64 ขณะที่ยอดขายในครึ่งแรกของปีทำได้ 4,170 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 41.70% ของเป้าหมายยอดขายที่วางไว้ ในขณะที่เรามีสินค้าคงเหลือพร้อมขาย (Inventory) ทั้งอาคารชุดพักอาศัยและบ้านพักอาศัย มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท และบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อีกมูลค่า 2,700 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบ้านเดี่ยวขายดีมากทุกราคาจากปัจจัยหลักเรื่องของความต้องการบ้านสำหรับอยู่อาศัยและคุ้มกันภัย ส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกมียอดขายรวม 11,338 ล้านบาท เติบโต 38% มาจากยอดขายแนวราบ 9,390 ล้านบาท เติบโต 22% และแนวสูง 1,948 ล้านบาท เติบโต 304% เมื่อเทียบกับปีผ่านมา โดยการเติบโตของยอดขายแนวราบมาจาก 3 พอร์ตหลัก คือ บ้านราคามากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป เติบโต 41% บ้านราคา 10-20 ล้านบาท เติบโต 35% บ้านราคา 5-10 ล้านบาทเติบโต 22%
สำหรับครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่า 11,000 ล้านบาท โดยจะทยอยเปิดขายปลายไตรมาส 3 และ 4 แบ่งเป็นแนวราบ 7 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับราคา 3.89-20 ล้านบาท พร้อมกับแนวสูง 1 โครงการ ซึ่งเตรียมจะเปิดโครงการ The Crest Park Residences คอนโด Luxury มูลค่า 3,400 ล้านบาท ราคาเริ่ม 5.9 ล้านบาท และเมื่อรวมกับของพร้อมขายในครึ่งปีหลัง 24,000 ล้านบาท ทั้งหมดจะเพียงพอต่อเป้าหมายยอดขาย 20,000 ล้านบาทในปีนี้
“ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายแต่เรามั่นใจสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ บริษัทมีสภาพคล่องพร้อมสินค้าพร้อม ที่ดินพร้อม โดยปีนี้เราจะโอนที่ดินใหม่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ได้ตามแผน เพื่อการเติบโตใน 3 ปีนับจากนี้”
