“แสนสิริ” เผยดีมานด์ที่อยู่อาศัยเมืองท่องเที่ยวยังโตต่อเนื่อง หลังลูกค้าเชียงใหม่ตอบรับดี ล่าสุด ประกาศ Sold Out “1517 นิมมาน” โครงการแนวราบใจกลางย่านนิมมานฯ เชียงใหม่ ใน 3 สัปดาห์ โกยยอดขายแนวราบ 13,300 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 70% จากเป้ายอดขายแนวราบ 20,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนรองรับตลาดภูเก็ต พัทยา หัวหิน เมืองท่องเที่ยว
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานด์ความต้องการในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง ซึ่งสะท้อนได้จากการ Sold out ปิดการขายโครงการ “1517 NIMMAN” (1517 นิมมาน) เชียงใหม่ ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบ และทำเลที่ตั้งไข่แดงใจกลางย่านนิมมานฯ ขณะที่ราคาและศักยภาพโครงการยังได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทำให้การตอบรับเพื่อลงทุนในอนาคตดี
สำหรับโครงการ 1517 นิมมาน เป็น Co - Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจ และการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต บนทำเลไข่แดงใจกลางย่านนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่นับเป็นย่านศูนย์รวมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ บูทีคโฮเทล รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกและแหล่งเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในแง่การลงทุนและการมองหาบ้านหลังที่สองในไทยที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี โดยเฉพาะชาวจีน และตอบโจทย์ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มองหาโลเกชันศักยภาพในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อประกอบธุรกิจและผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองในย่านชั้นนำของเชียงใหม่
“นอกจากนี้ กลุ่มผู้ลงทุนทั้งภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ที่มีความมั่นใจในเรื่องทำเลและผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึง 6-7% ต่อปี เทียบจากอัตราค่าเช่าอาคารพาณิชย์ในย่านนิมมานฯ ในปี 64 ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นจากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดเมืองท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่”
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้แนวโน้มราคาอสังหาฯ เติบโตพุ่งสูงขึ้นในทุกปี และส่งผลให้โครงการ 1517 นิมมาน ปิดการขายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดตัวโครงการได้เพียง 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ การปิดการขายโครงการดีคอนโด ริน และ ดีคอนโด พิงค์ คอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วกว่า 10 โครงการในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างยอดขายแนวราบล่าสุดเป็น 13,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้ายอดขายแนวราบ 20,000 ล้านบาท
นายอุทัย กล่าวว่า ตลาดเมืองท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต มีทิศทางที่ดีจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในโมเดล “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก ภาคเอกชนในธุรกิจต่างๆ เร่งพลิกฟื้นธุรกิจภาคธุรกิจโรงแรมเดินหน้าต่อ พนักงานเอกชนเริ่มมีรายได้กลับมา 100% และความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัว ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีจากเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ เช่น พัทยา ที่เริ่มเดินหน้าโครงการ “พัทยา มูฟ ออน” เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศพื้นที่สีเขียว 61 ประเทศ วันที่1 ก.ย. และ “หัวหิน แซนด์บ็อกซ์” ที่ดีเดย์เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการฟื้นตัวตลาดอสังหาฯ ในเมืองท่องเที่ยว แสนสิริมีแผนรองรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัด เช่น กลยุทธ์ในการรุกตลาดภูเก็ตรองรับ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยแคมเปญหมดห่วงเรื่องผ่อน สบายใจเรื่องกู้ เข้าอยู่แบบมีเงินติดกระเป๋า กับแพกเกจโปรโมชันพิเศษ ที่พร้อมเซฟคนภูเก็ตทุกทาง #โปรSAVEทั้งเกาะ 2 โครงการบ้านและทาวน์โฮมภูเก็ต
ส่วนในหัวหิน ได้เตรียมปิดการขายโครงการ “ลา ฮาบานา หัวหิน” โครงการคอนโดพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 80% โดยได้จัดโปรโมชันช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการได้ง่ายขึ้นในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท ฟรีโอนและค่าส่วนกลาง 10 ปี ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้แสนสิริยังเตรียมโอน EDGE Central Pattaya (เอดจ์ เซ็นทรัล-พัทยา) คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีกใจกลางพัทยา โดยได้จัดแคมเปญฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่ม 3.99 ล้านบาท ในวันที่ 4-5 ก.ย.นี้