รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมทบทวนกฎหมายภาษีใหม่อีกรอบ ในการที่จะให้รัฐสามารถยึดคริปโตจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้เลี่ยงภาษีได้โดยตรง เพื่อยกระดับความเข้มงวดของกฎหมายสำหรับตลาดคริปโตให้มากยิ่งขึ้น คาดเริ่มบังคับใช้ได้ในปี 2565
จากรายงานของสำนักข่าว Reuters เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่ารัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมที่จะเสนอแก้ไขข้อกฎหมายการจัดเก็บภาษี เพื่อให้ทางหน่วยงานสรรพากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการการจัดเก็บภาษี สามารถยึดคริปโตที่ถือโดยผู้เลี่ยงภาษีได้ ถึงแม้ว่าคริปโทเหล่านั้นจะถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลก็ตาม ซึ่งจากข้อจำกัดของข้อกฎหมายในปัจจุบันนี้ที่เป็นอุปสรรคต่อทางหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ที่จะเข้ามายึดสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้
อย่างไรก็ตามนโยบายการเข้มงวดทางภาษีของเกาหลีใต้นั้นเป็นหนึ่งในภารกิจที่ทางภาครัฐต้องการที่จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นสำหรับตลาดคริปโตฯ เพื่อที่จะตอบโต้อาชญากรรมทางการเงินที่กระทำโดยใช้คริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม การค้ามนุษย์ หรือแม้กระทั่ง การฟอกเงิน การพนัน ซึ่งเป้นสิ่งที่นักธุรกิจและนักการเมืองในหลายๆประเทศนิยมทำกันและอื่นๆ ที่จะเข้ามาในภายหลัง
ในขณะเดียวกัน Moon Jae-in ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็กำลังต้องการที่จะขยายฐานการเก็บภาษี เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายสวัสดิการของประเทศที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ ทางภาครัฐก็ได้ขึ้นการเก็บภาษีสำหรับผู้มีรายได้สูงและภาคเอกชน เพื่อให้มั่นใจว่าพลเมืองที่มีฐานะจะได้เข้ามาช่วยในด้านต้นทุนสำหรับสวัสดิการผู้สูงอายุที่กำลังเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในช่วงปี 2563 ประเทศเกาหลีใต้ก็ได้กลายเป็นประเทศที่กำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุเร็วที่สุดในโลก และมีอัตราการกำเนิดต่ำที่สุด โดยการเสนอในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของการทบทวนกฎหมายภาษีปีละหนึ่งครั้งของภาครัฐ ที่จะมีการทบทวนทั้งหมดกว่า 16 ประมวลกฎหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงกล่าวว่า การทบทวนกฎหมายภาษีในครั้งนี้จะนำไปสู่รายรับจากภาษีที่ลดลงอย่างน้อย 1.3 พันล้านดอลลาร์ในระหว่างวันนี้ ไปจนถึงปี 2569 เนื่องจากนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในกลุ่มอย่าง เซมิคอนดักเตอร์, แบตเตอร์รี่ หรือวัคซีน นั้นมากกว่าการชดเชยที่ได้รับมาจากกลุ่มผู้มีรายได้สูง
"แม้ว่า 1.5 ล้านล้านวอน (1.3 พันล้านดอลลาร์) จะไม่สามารถพูดได้ว่ามันเป็นจำนวนที่กลางๆ แต่มันก็ไม่ใช่จำนวนที่มากเลย สำหรับสิ่งที่จำเป็นในการทบทวนประมวลภาษีในครั้งนี้รวมไปถึงทางรัฐบาลก็ยังเสนอให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับบริษัทต่างๆ ในการจ้างงาน โดยเฉพาะจากนอกเมืองหลวงอย่างกรุงโซล และเสนอให้ลดภาษีสำหรับบริษัทต่างๆ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการการฟื้นฟูกำลังการผลิตอีกด้วย"
ทั้งนี้ทางกระทรวงจะยื่นข้อทบทวนกฎหมายนี้ไปยังรัฐสภาในวันที่ 3 กันยายนที่จะถึงนี้ โดยการเสนอแก้ไขในครั้งนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ร่างกฎหมายเสียก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้จริงซึ่งคาดว่าหากผ่านร่างกฏหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะสามารถเริ่มบังคับใช้ได้ในปี 2565