xs
xsm
sm
md
lg

10 หุ้นเด็ดไม่เกิน 10 บาท ค่า P/E, P/BV ต่ำ Yield สูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงตลาดผันผวน หุ้นราคาต่ำ 10 บาทพื้นฐานดียังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะคัดเลือกจาก 1.ราคา ณ 23 ก.ค.64 ไม่เกิน 10 บาท 2.ค่า P/E ต่ำกว่า 15 เท่า 3.ค่า P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า 4.อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงกว่า 5% 5.กำไร Q1/64 เป็นบวก และ 6.อัตราผลตอบแทนด้านราคา YTD เป็นบวก ซึ่งมี 10 หุ้นที่เข้าปัจจัยดังกล่าว

1.LEE (บมจ.ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์) ราคาล่าสุด 2.76 บาท (ราคา YTD +20.00% ปี 63 อยู่ที่ +5.50% ปี 64 อยู่ที่ -14.17%) ค่า P/E 13.25 เท่า (อุตสาหกรรม 6.25 เท่า) ค่า P/BV 0.93 เท่า (อุตสาหกรรม 1.37 เท่า) เงินปันผล (Dividend Yield) ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 6.52% ปี 63 อยู่ที่ 5.22% ปี 62 อยู่ที่ 3.67% และกำไร Q1/64 คือ 37 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 32 ล้านบาทกำไรปี 63 คือ 187 ล้านบาท  กำไรปี 62 คือ 149 ล้านบาท

LEE มาร์เกตแคป 2,545 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ อบพืช กิจการไซโลและจัดจำหน่ายวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ โดยมีตระกูล "ลีละศิธร" ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 และ 2 รวมกัน 40.99%

2.SC (บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น) ราคาล่าสุด 3.00 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +7.91% ปี 63 อยู่ที่ +23.01% ปี 62 อยู่ที่ -16.30%) ค่า P/E 6.24 เท่า (อุตสาหกรรม 24.09 เท่า) ค่า P/BV 0.66 เท่า (อุตสาหกรรม 1.22 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 6.00% ปี 63 อยู่ที่ 6.83% ปี 62 อยู่ที่ 7.08% และกำไร Q1/64 คือ 416 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 300 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 1,897 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 2,026 ล้านบาท

SC มาร์เกตแคป 12,564 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร โดยมีตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-4 รวมกัน 64.75%

3.LHK (บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล) ราคาล่าสุด 3.42 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +33.59% ปี 63 อยู่ที่ -5.88% ปี 62 อยู่ที่ -27.66%) ค่า P/E 12.92 เท่า (อุตสาหกรรม 13.68 เท่า) ค่า P/BV 0.91 เท่า (อุตสาหกรรม 1.01 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 8.77% ปี 63 อยู่ที่ 8.59% ปี 62 อยู่ที่ 13.60% และกำไร Q1/64 คือ 101 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 86 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 143 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 208 ล้านบาท

LHK มาร์เกตแคป 1,309 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการ จัดหา แปรรูป และจำหน่ายสเตนเลสรีดเย็นชนิดม้วนและแผ่น ผลิตและจำหน่ายท่อสเตนเลส โดย 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดมีตระกูล "อัครพงศ์พิศักดิ์" ถือ 6 คน รวม 62.47% และบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือในลำดับ 9

4.SENA (บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์) ราคาล่าสุด 3.92 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +13.95% ปี 63 อยู่ที่ +27.41% ปี 62 อยู่ที่ -17.68%) ค่า P/E 5.03 เท่า (อุตสาหกรรม 3.96 เท่า) ค่า P/BV 0.81 เท่า (อุตสาหกรรม 0.77 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 7.95% ปี 63 อยู่ที่ 7.27% ปี 62 อยู่ที่ 9.99% และกำไร Q1/64 คือ 229 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 230 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 1,119 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 890 ล้านบาท

SENA มาร์เกตแคป 5,628 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์ อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮมและอาคารชุด ประกอบธุรกิจเช่า โดยมีตระกูล "ธัญลักษณ์ภาคย์" ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-4 รวมกัน 56.57%

5.SMIT (บมจ.สหมิตรเครื่องกล) ราคาล่าสุด 4.30 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +10.26% ปี 63 อยู่ที่ +3.72% ปี 62 อยู่ที่ -36.27%) ค่า P/E 13.41 เท่า (อุตสาหกรรม 13.68 เท่า) ค่า P/BV 0.94 เท่า (อุตสาหกรรม 1.10 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 6.05% ปี 63 อยู่ที่ 8.21% ปี 62 อยู่ที่ 9.57% และกำไร Q1/64 คือ 66 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 43 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 147 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 182 ล้านบาท

SMIT มาร์เกตแคป 2,279 ล้านบาท ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษ กลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมไม้ เฟอร์นิเจอร์ โดย 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่สุด มีคนในตระกูล "แต้มศิริชัย" ถือรวมกัน 3 คนถือ 15.63% และตระกูล "ศรีธรรัตน์กุล" ถือรวมกัน 3 คน 18.27% และตระกูล "ศิวรักษ์" ถือรวมกัน 3 คนถือ 15.58% และมีเสี่ยอ้วน นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล ถือในลำดับ 10 ถือ 2.77%

6.LPN (บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์) ราคาล่าสุด 4.90 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +5.15% ปี 63 อยู่ที่ +6.39% ปี 62 อยู่ที่ -30.48%) ค่า P/E 11.45 เท่า (อุตสาหกรรม 24.09 เท่า) ค่าP/BV 0.63 เท่า (อุตสาหกรรม 1.22 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 28.57% ปี 63 อยู่ที่ 12.88% ปี 62 อยู่ที่ 13.78% และกำไร Q1/64 คือ 122 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 216 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 716 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 1,256 ล้านบาท

LPN มาร์เกตแคป 7,230 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีสำนักงานประกันสังคม ถืออันดับ 1 ถือ 4.51% และมีคนดัง นายธีรพล นพรัมภา ถืออันดับ 2 ถือ 3.30%

7.QTC (บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่) ราคาล่าสุด 5.00 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +27.55% ปี 63 อยู่ที่ -6.67% ปี 62 อยู่ที่ -15.66%) ค่า P/E 11.46 เท่า (อุตสาหกรรม N/A เท่า) ค่า P/BV 0.99 เท่า (อุตสาหกรรม 1.57เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 8.00% ปี 63 อยู่ที่ 3.83% และกำไร Q1/64 คือ 22 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 31 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 157 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ198 ล้านบาท

QTC มาร์เกตแคป 1,705 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยมี น.ส.ศศิกาญจน์ ตันธนสิน ถืออันดับ 1 ถือ 15.92% บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ถืออันดับ 6 ถือ 4.99% และเสี่ยยักษ์ เซียนหุ้นคนดัง ถืออันดับ 8 ถือ 3.58%

8.TNITY (บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา) ราคาล่าสุด 6.95 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +67.87% ปี 63 อยู่ที่ +6.15% ปี 62 อยู่ที่ -29.09%) ค่า P/E 4.92 เท่า (อุตสาหกรรม 23.60 เท่า) ค่า P/BV 0.86 เท่า (อุตสาหกรรม 3.63 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 7.19% ปี 63 อยู่ที่ 10.63% ปี 62 อยู่ที่ 8.18% และกำไร Q1/64 คือ 66 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ -105 ล้านบาท

มาร์เกตแคป 1,490 ล้านบาท ประกอบธุรกิจการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจหลักทรัพย์ 2) ที่ปรึกษาทางการเงิน และ 3) แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ โดยมีนายนิติพล ชัยสกุลชัย ถืออันดับ 1 ถือ 17.91% และบริษัท คอม-ลิงค์ จำกัดถืออันดับ 2 ถือ 13.07%

9.AP (บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)) ราคาล่าสุด 8.15 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +12.41% ปี 63 อยู่ที่ -2.68% ปี 62 อยู่ที่ +24.17%) ค่า P/E 5.12 เท่า (อุตสาหกรรม 24.09 เท่า) ค่า P/BV 0.83 เท่า (อุตสาหกรรม 1.22 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 5.52% ปี 63 อยู่ที่ 5.52% ปี 62 อยู่ที่ 5.37% และกำไร Q1/64 คือ 1,402 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ 618 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 4,226 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 3,067 ล้านบาท

มาร์เกตแคป 25,639 ล้านบาท ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ถืออันดับ 1 ถือ 21.30%

10.TIPCO (บมจ.ทิปโก้ฟูดส์) ราคาล่าสุด 9.00 บาท (เปลี่ยนแปลงราคา YTD +25.87% ปี 63 อยู่ที่ -6.54% ปี 62 อยู่ที่ +4.08%) ค่า P/E 5.31 เท่า (อุตสาหกรรม 37.00 เท่า) ค่า P/BV 1.03 เท่า (อุตสาหกรรม 2.24 เท่า) เงินปันผล ณ 23 ก.ค.64 อยู่ที่ 10.44% ปี 63 อยู่ที่ 4.76% ปี 62 อยู่ที่ 3.27% และกำไร Q1/64 คือ 41 ล้านบาท กำไร Q1/63 คือ -294 ล้านบาท กำไรปี 63 คือ 484 ล้านบาท กำไรปี 62 คือ 207 ล้านบาท

TIPCO มาร์เกตแคป 4,343 ล้านบาท ประกอบผลิตและจำหน่ายน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่ม ภายใต้เครื่องหมายการค้าหลัก ออรา โดยมีคนในตระกูล "ทรัพย์สาคร" ถือหุ้นใหญ่ 4 คน รวมกัน 26.64% และมีบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัดถืออันดับ 1 ถือ 3.81%

ทั้งนี้ ใน 10 หุ้นนี้เป็นหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ 4 ตัว และมีหุ้นบางตัวที่มีเซียนหุ้นระดับพันล้านอย่าง เสี่ยยักษ์ เสี่ยอ้วน เข้าไปเป็น 1 ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย ดังนั้น จึงเป็นหุ้นตัวเล็กที่น่าสนใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น