เผยการท่องเที่ยวภูเก็ตหลังเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในระดับต่ำ เหตุมาตรการการกักตัวก่อนเข้าประเทศที่เข้มงวด ระบุความเสี่ยงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวล่าช้า ด้านผู้ประกอบการโรงแรมหวังภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ หนุนอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมระดับลักชัวรี และระดับอัปสเกลในภูเก็ตปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี
นายคาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวภูเก็ตในปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมาตรการการกักตัวก่อนเข้าประเทศที่เข้มงวด ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 63 ขณะที่ประชาชนกว่า 60% ในจังหวัดภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในประเทศไทย เนื่องจากต้องเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว ภายใต้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ เช่น การเข้าพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ โดยมีการรับรอง SHA+ และตรวจ RT-PCR หลายครั้งก่อนและหลังเดินทางมาถึงภูเก็ต
“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์เป็นโครงการนำร่องในการพยายามที่จะกลับมาเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจะขยายไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ หากภูเก็ตประสบความสำเร็จ แต่ความเสี่ยงอยู่ตรงที่ว่าอาจมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้มาตรการและข้อจำกัดด้านการเดินทางมีผลบังคับใช้อีกครั้ง และทำให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวล่าช้าออกไป”
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมต่างคาดหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง 64 ด้วยอัตราการเข้าพักเป็นตัวเลข 2 หลัก แต่ทางการไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพียง 100,000 คน ภายใต้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ในไตรมาส 3 ปี 64 ดังนั้นเราไม่คาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมระดับลักชัวรีและระดับอัปสเกลในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นมากนัก และอาจคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 20% ต่อไป
ในขณะเดียวกัน ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) ยังคงจะอยู่ในระดับต่ำตลอดเดือนที่เหลือของปีนี้หรืออาจนานกว่านั้น เนื่องจากโรงแรมที่เปิดอยู่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนโรงแรมใหม่ที่ถูกเลื่อนเปิดตัวมาและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาเปิดบริการมากขึ้น
มร.คาร์ลอส กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดระดับหนึ่ง ด้วยอัตราการติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งตรงนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้โครงการ ‘ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์’ ในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว
ทั้งนี้ ซัปพลายโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ โดยบริเวณหาดป่าตอง มีซัปพลาย 24% ซึ่งเป็นโรงแรมระดับลักชัวรีและระดับอัปสเกลเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือ หาดกะรน 15% หาดบางเทา 14% หาดกะตะ 13% และหาดกมลา 10% ขณะที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมลดลงอย่างมาก โดยมีอัตราการเข้าพักเพียง 8% สำหรับโรงแรมระดับลักลักชัวรี และระดับอัปสเกล ลดลงไป 30% อัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 3% เนื่องจากการระบาดระลอกที่สามในจังหวัดสมุทรปราการในเดือน เม.ย.64 ส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ยรายวันของโรงแรมระดับลักชัวรีและระดับอัปสเกลลดลงไป 39% อยู่ที่ 2,342 บาท
สำหรับในครึ่งแรกปี 64 ไม่มีโรงแรมเปิดใหม่ทั้งในระดับลักชัวรีและระดับอัปสเกล ดังนั้น อุปทานสะสมทั้งหมดจึงไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีจำนวนห้องพักรวมอยู่ที่ 22,824 ห้องในภูเก็ต มีโรงแรมใหม่กว่า 20 แห่งที่วางแผนจะเปิดตัวในช่วงปี 63 และ 64 แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนในการกลับมาของนักท่องเที่ยว โรงแรมที่วางแผนจะเปิดตัวจำต้องชะลอการเปิดตัวออกไปถึงช่วงครึ่งปีหลัง 64 และปี 65 มีเพียงโรงแรมวี วิลล่า ภูเก็ต บาย เอ็มแกลเลอรี จำนวน 24 ห้อง เปิดตัวในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรก 64 ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมระดับซูเปอร์ลักชัวรี