ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ "นายภควรรธน สุพันธวงศ์" ในการเป็นผู้แนะนำการลงทุนเป็นเวลา 6 เดือน กรณีแสวงประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติหน้าที่ ขณะกระทำผิดสังกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 นายภควรรธนชักชวนให้ลูกค้าซื้อหุ้นที่จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยอ้างว่าหุ้นดังกล่าวจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2561 ลูกค้าจึงตกลงซื้อและชำระค่าหุ้นโดยโอนเงินเข้าบัญชีของนายภควรรธน จำนวน 400,000 บาท และนายภควรรธน ได้นำใบหุ้นมามอบให้ลูกค้า ต่อมาหุ้นดังกล่าวไม่ได้เสนอขายต่อประชาชนและไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามที่กล่าวอ้าง โดยนายภควรรธน ได้รับเงินส่วนต่างค่าหุ้นจากการนำหุ้นดังกล่าวมาเสนอขายต่อลูกค้า เป็นเงิน 200,000 บาท
การกระทำของนายภควรรธน เป็นการแสวงประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน* ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2** เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการชักชวนซื้อหุ้น IPO โดยให้ตรวจสอบก่อนว่าหุ้นที่ได้รับการชักชวนนั้นมีการยื่นขอเสนอขายกับ ก.ล.ต. หรือเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่ และไม่ควรโอนเงินค่าซื้อหุ้นเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้แนะนำการลงทุน เพราะอาจเป็นช่องทางให้มีการทุจริตและอาจสูญเสียเงินจำนวนมากได้ ในกรณีการโอนเงินค่าซื้อหุ้น ผู้ลงทุนต้องโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้แนะนำการลงทุนต้องไม่ใช้หน้าที่แสวงหาประโยชน์จากลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะยินยอมหรือไม่