หุ้นปิดเช้าร่วง 15.50 จุด รับแรงกดดันราคาน้ำมันถอยลง-รัฐยกระดับมาตรการคุมโควิด-19 สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งในกรอบแดนลบอยู่ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,550 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,530 จุด
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง รับปัจจัยลบทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ โดยต่างประเทศมาจากราคาน้ำมันที่ถอยลงหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือน ส.ค.ไปจนถึงเดือน ธ.ค.64 ทำให้เห็นภาพรวม Supply ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Demand น่าจะชะลอตัวลงด้วยซ้ำจากการแพร่ระบาดโควิด-19 กลายพันธุ์ที่กลับมาในหลายประเทศ
ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องของมาตรการคุมเข้มของภาครัฐในการยกระดับการควบคุมมากขึ้น ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 13 จังหวัด และจำกัดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งยังเชื่อว่ามาตรการที่ออกมายังไม่เพียงพอที่จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศถอยลงได้ ดังนั้น จึงมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังไม่น่าไว้วางใจ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบกันจากความกังวลภาพเศรษฐกิจโลกที่จะกลับมาชะลอตัวหลังจากที่เผชิญการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แบบกลายพันธุ์อีกรอบ
ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และในช่วงกลางสัปดาห์ให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทย รวมถึงติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปที่จะทยอยออกมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,558.87 จุด ลดลง 15.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.98% มูลค่าการซื้อขายราว 35,368 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งในกรอบแดนลบอยู่ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,550 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570 จุด