หุ้นปิดลบ 1.29 จุด รับแรงกดดันเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่ง-โควิด-19 กลายพันธุ์และวัคซีน แต่เมื่อดัชนีปรับลงไปแถวแนวรับสำคัญที่ 1,560 จุด ก็มีแรงดีดกลับได้บ้างจากแรงซื้อที่เข้ามา สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน รับปัจจัยลบจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งขึ้น และบ้านเราก็ตอบรับเรื่องมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปแล้ว ขณะที่ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ในส่วนของการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และวัคซีน อย่างไรก็ดี เมื่อดัชนีลงไปแถวแนวรับสำคัญที่ 1,560 จุด ก็มีแรงดีดกลับได้บ้างจากแรงซื้อที่เข้ามา ซึ่งตลาดยังไม่มีปัจจัยอะไรมาทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นไปได้
พร้อมกันนี้ ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มทยอยออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยเริ่มที่ TISCO ก่อน ทำให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้าง อีกทั้งจะมีการทำพรีวิวผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งถ้าออกมาดีก็จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาช่วยหนุนตลาดได้ด้วย
ส่วนนอกประเทศให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในวันพรุ่งนี้ จะออกมาทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 2/64 ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงให้ติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 14-15 ก.ค.นี้ ซึ่งให้ติดตามมุมมองในเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,569.70 จุด ลดลง 1.29 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 72,585.78 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด