ศุลกากรกรุงโซล เผยรายชื่อผู้กระทำผิดที่มีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลนอกประเทศ มูลค่ารวมกว่า 1.69 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.48 พันล้านดอลลาร์ จากผู้กระทำผิดทั้งหมด 33 ราย
จากการรายงานของสำนักข่าว Korea Times ระบุว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายของเกาหลีใต้ได้จับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมด 33 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดมีส่วนร่วมในการการฉ้อโกงสินทรัพย์ดิจิทัลและการฟอกเงิน ซึ่งผู้กระทำผิดทั้งหมด 14 คนจาก 33 คน ได้ถูกนำตัวส่งไปยังพิจารณาคดีในชั้นศาล ส่วนอีก 15 คนถูกตัดสินลงโทษ และอีก 4 คนกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน
นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง ได้ถูกทางการสั่งปรับเป็นจำนวนเงินเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านวอน ในข้อหาปลอมแปลงใบแจ้งหนี้และตราส่งสินค้าเพื่อจ่ายให้กับบริษัทกระดาษที่เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อการฟอกเงิน โดยมีการแบ่งจ่ายเงินทั้งหมดจำนวน 563 งวดในระยะเวลาสามปี
ในขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยอีกรายหนึ่งถูกสั่งปรับเงิน 1.6 พันล้านวอน ฐานปลอมแปลงเอกสารการโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นเงินเพื่อการศึกษาและค่าครองชีพในต่างประเทศ
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการเข้มงวดในการจัดเก็บภาษี โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของประเทศประกาศว่าผลกำไรที่ได้จากการซื้อขายและถือครองสกุลเงินดิจิตอลจะต้องมีการเสียภาษี และภาษีดังกล่าวจะถูกเรียกเก็บเมื่อมีผลกำไรจากสกุลเงินดิจิทัลเกิน 2.5 ล้านวอนหรือประมาณ 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากน้อยกว่านี้จะได้รับการยกเว้นภาษี นอกจากนี้จะมีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันการฟอกเงิน โดยกฎระเบียบใหม่ระบุว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนจะต้องมีการใช้ “บัญชีชื่อจริง” ซึ่งคาดว่าเกาหลีใต้จะเริ่มเก็บภาษี 20% จากกำไรคริปโต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป