หุ้นปิดเช้าลบ 8.39 จุด น้ำมันร่วง-ดอลลาร์แข็ง-บอนด์ยิลด์ถอย-โควิด-19 หนักกดดัน โดยช่วงสั้นตลาดพักฐานย้ายไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะเคลื่อนไหวแดนลบในลักษณะซึมตัว
นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯ ทั้งระยะสั้น และระยาวต่างถอยลงมาด้วย โดย Bond yield อายุ 10 ปีลงมา 1.35% แล้ว ซึ่งได้ถอยลงเรื่อยๆ จากที่นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ช่วงสั้นตลาดพักฐานย้ายไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 60.1 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 64.0 ในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 63.5 ทำให้เห็นว่ามีหลายปัจจัยกดดันการลงทุน
ส่วนบ้านเรายังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ทำนิวไฮกว่า 6 พันราย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดปรับตัวลงในช่วงเช้ามาทดสอบใกล้ 1,580 จุด ตอบรับทั้งปัจจัยลบจากในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มส่งออกได้บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร ตอบรับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงจะเคลื่อนไหวแดนลบในลักษณะซึมๆ และคาดว่าบ่ายนี้ตลาดยุโรปน่าจะติดลบ พร้อมให้ติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 15-16 มิ.ย. ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ โดยให้แนวรับ 1,580-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด