xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ก.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดิ่งลงหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลดลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,577.37 จุด ลดลง 208.98 จุด หรือ -0.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,343.54 จุด ลดลง 8.80 จุด หรือ -0.20% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,663.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.32 จุด หรือ + 0.17%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังบวกขึ้น 3 วันติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาและพากันเข้าซื้อพันธบัตรท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 455.98 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.52%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,507.48 จุด ลดลง 60.06 จุด หรือ -0.91%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,511.38 จุด ลดลง 150.59 จุด หรือ -0.96% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,100.88 จุด ลดลง 64.03 จุด หรือ -0.89%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาดลง และเงินปอนด์ที่แข็งค่ากดดันหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,100.88 จุด ลดลง 64.03 จุด หรือ -0.89%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน จนเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนการประชุมโดยไม่มีกำหนด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 73.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย. ดิ่งลง 2.63 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 74.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ รวมทั้งคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,794.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 32.7 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 26.174 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,084 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,796.10 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังมีรายงานว่ายอดสั่งซื้อสินค้าในภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเดือน มิ.ย.ในวันนี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.37% แตะที่ 92.5490 เมื่อคืนนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1823 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1868 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3852 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7496 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7531 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9247 ฟรังก์ จากระดับ 0.9219 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2461 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2334 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 110.61 เยน จากระดับ 110.89 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานสถิติของรัฐบาลเยอรมนี (FSO) เปิดเผยวานนี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าในภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีร่วงลง 3.7% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่การล็อกดาวน์ครั้งแรกในปี 2563 โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงจากประเทศนอกเขตยูโรโซน

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,577.37 จุด ลดลง 208.98 จุด, -0.60%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,343.54 จุด ลดลง 8.80 จุด, -0.20%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,663.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.32 จุด, +0.17%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,100.88 จุด ลดลง 64.03 จุด, -0.89%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,507.48 จุด ลดลง 60.06 จุด, -0.91%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,511.38 จุด ลดลง 150.59 จุด, -0.96%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 52,861.18 จุด ลดลง 18.82 จุด, -0.04%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,047.11 จุด เพิ่มขึ้น 41.50 จุด, +0.69%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,531.63 จุด ลดลง 0.73 จุด, -0.05%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,992.43 จุด ลดลง 43.95 จุด, -0.62%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,190.59 จุด เพิ่มขึ้น 49.57 จุด, +1.58%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,072.86 จุด ลดลง 70.64 จุด, -0.25%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,530.26 จุด ลดลง 4.06 จุด, -0.11%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,913.07 จุด ลดลง 6.26 จุด, -0.04%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,305.21 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด, +0.36%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,643.21 จุด เพิ่มขึ้น 45.02 จุด, +0.16%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,261.80 จุด ลดลง 53.20 จุด, -0.73%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,531.40 จุด ลดลง 57.60 จุด, -0.76%


กำลังโหลดความคิดเห็น