หุ้นไทยปิดพุ่ง 12.15 จุด ดีกว่าภูมิภาค เผยปัจจัย ครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนหลัก-วัคซีนทางเลือกหนุน โดยช่วงเช้าได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนช่วงบ่ายได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงจะแกว่งตัวออกด้านข้าง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางบวกได้อยู่ โดยได้ช่วงเช้าได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน และในช่วงบ่ายได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลังภาครัฐให้ความช่วยเหลือ และมีการคลายล็อกดาวน์บางส่วนสำหรับงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วย ซึ่งส่งผลให้หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างปรับตัวขึ้นได้ดี อีกทั้งหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นมาด้วย Sentiment ตลาดโดยรวมจึงไม่ได้แย่
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบการจัดหาซิโนแวค-ไฟเซอร์-โมเดอร์นาใช้เป็นวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือกมากขึ้น ทำให้ช่วยประคอง Sentiment ตลาดได้ด้วย เพียงแต่เมื่อดัชนีปรับขึ้นมาใกล้ระดับ 1,600 จุด เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างทาง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดบ้านเราวันนี้ถือว่าดูดีกว่าตลาดอื่นในเอเชีย ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบกัน พร้อมให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่อไป และความคืบหน้าของวัคซีนด้วย เพราะเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อทิศทางตลาด
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,591.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.15 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.77% มูลค่าการซื้อขาย 69,485.37 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด