เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศความสำเร็จในการปั้นสตาร์ทอัพดาวรุ่งรายแรก “APE BOARD” จดทะเบียนเป็นบริษัทสตาร์ทอัพได้สำเร็จ “APE BOARD” เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมและแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi ส่วนบุคคล ที่มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 350,000 คน จาก 165 ประเทศทั่วโลก
นับเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมและแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi แห่งแรกของโลก ที่พัฒนาโดยเทคคอมพานีในกลุ่มธนาคาร และได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ตั้งเป้ามีผู้ใช้งานเฉลี่ย 100,000 users ต่อวันภายในสิ้นปี 2564 นี้ จากปัจจุบัน 40,000 users ต่อวัน
แพลตฟอร์ม APE BOARD รองรับกว่า 79 ฟาร์มครอบคลุม 5 เชนหลัก ได้แก่ Ethereum,Binance Smart Chain, Terra, Solana และ Polygon ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสามารถดูข้อมูลการลงทุนได้อย่างครบวงจรที่เดียวจบ มีความปลอดภัยสูง โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นตัวตั้ง
ความสำเร็จอีกก้าวของ SCB 10X ในการปั้นสตาร์ทอัพรายแรกขององค์กร
นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of Venture Builder บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “SCB 10X มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีทีม Venture Builder ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างธุรกิจใหม่ผ่านนวัตกรรม ภายใต้ Incubation Program โดยใช้หลักการ Design Thinking และ Lean Startup เป็นแกนสำคัญ ทีมจะมีการนำเสนอไอเดียในการทำธุรกิจ โดยไอเดียที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำ POC (Proof of Concept) และจะได้รับเงินทุนสนับสนุน เพื่อให้สามารถลองทำขึ้นมาได้ แต่จะผ่านไปสู่การ spin-off หรือการจัดตั้งบริษัทใหม่และได้เงินทุนเพิ่มหรือไม่นั้น ทีมงานจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองที่เข้มข้น
วันนี้เรามีความยินดีและพร้อมแนะนำสตาร์ทอัพดาวรุ่ง “APE BOARD” แพลตฟอร์มที่รวบรวม และแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi (Decentralized Finance) ส่วนบุคคล นับเป็นสตาร์ทอัพรายแรกที่ทีม Venture Builder ได้ปั้นขึ้นจากทีมพัฒนาภายในองค์กร จนสามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทสตาร์ทอัพได้สำเร็จ โดยเราเปิดโอกาสให้พนักงานที่เป็นเจ้าของไอเดียธุรกิจและนักพัฒนา ได้เป็นเจ้าของร่วม (Co-founder) โดย SCB 10X เป็นผู้ถือหุ้น
ปัจจุบัน "APE BOARD" ได้รับความสนใจในการร่วมลงทุนจาก Venture Capital ระดับโลกหลายแห่ง นอกจากนี้ รูปแบบธุรกิจของ “APE BOARD” ยังสอดคล้องกับหนึ่งใน ecosystem ที่ SCB 10X ให้ความสนใจที่จะเข้าไปศึกษาและพัฒนา คือ Blockchain Based Financial Services, Decentralized Finance (DeFi) และ Digital Assets หรือ บริการทางการเงินแบบไร้ศูนย์กลางบนบล็อกเชน ซึ่งเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะกลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่สำหรับการดำเนินธุรกิจในโลกอนาคต
“APE BOARD” แพลตฟอร์มรวบรวม และแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi ส่วนบุคคล ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 350,000 คนใน 165 ประเทศทั่วโลก
นายกษิดิ์เดช พูลสุขสมบัติ CEO and Co-Founder APE BOARD เล่าว่า APE BOARD ถูกคิดค้น และพัฒนาขึ้นมาจาก Pain Point ของผู้ใช้เป็นตัวตั้ง โดยเกิดจากประสบการณ์ของทีมนักพัฒนา ของ Venture Builder ที่ลงทุนใน DeFi (Decentralized Finance) บนหลากหลายแพลตฟอร์ม หลายฟาร์ม (Protocols) และหลาย Chain อีกทั้งมีการเก็บ Digital Assets อยู่ใน Wallet มากกว่า 1 Wallet ซึ่งมีความกระจัดกระจาย และยากต่อการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่เพื่อการลงทุน ในขณะที่การลงทุนใน DeFi นั้นเป็นการลงทุนที่แข่งขันกับเวลา และต้องใช้ความรอบคอบสูง ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ เราเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของนักลงทุนใน DeFi ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีจำนวนนักลงทุนประมาณ 1.75 ล้านคน โดยในไตรมาสแรกของปี 2021 มีผู้ลงทุนใน DeFi ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 50% สอดรับกับเทรนด์แห่งโลกอนาคต เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์มที่รวบรวมและแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi ส่วนบุคคล ที่รองรับกว่า 79 Protocols (ฟาร์ม) ครอบคลุม 5 Chains หลัก ได้แก่ Ethereum, Binance Smart Chain, Terra, Solana และ Polygon เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสามารถดูข้อมูลการลงทุนได้ในแพลตฟอร์มเดียว
APE BOARD รองรับการใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟนในรูปแบบ Web Application ซึ่งมีความปลอดภัยสูง โดยแพลตฟอร์มจะไม่มีการเก็บข้อมูลของนักลงทุน นับเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมและแสดงพอร์ตการลงทุนใน DeFi แห่งแรกของโลก ที่พัฒนาโดยเทคคอมพานีในกลุ่มธนาคาร และได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ในอนาคตเรามุ่งหวังเปิดรับนักลงทุนและผู้ร่วมทีมที่สนใจเข้าร่วมกับบริษัท เพื่อร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ซึ่งหลังจากเปิดให้ได้ทดลองใช้แพลตฟอร์มเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งานชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมแล้วกว่า 350,000 คน โดย 10 อันดับผู้ใช้จากทั่วโลก ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง อาเจนตินา สิงคโปร์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และ จีน มีผู้เข้าใช้แพลตฟอร์มเฉลี่ย 40,000 users ต่อวัน มีสถิติการกลับมาใช้ซ้ำต่อสัปดาห์สูงถึง 60% โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเข้าใช้งานผ่านมือถือเป็นหลักคิดเป็นสัดส่วน 56.8% ทั้งนี้ แพลตฟอร์มของเราตั้งเป้ามีผู้ใช้งานเฉลี่ย 100,000 users ต่อวันภายในสิ้นปี 2564 นี้
ทำไมต้อง “APE BOARD” และทำไมต้องใช้ “ลิง” เป็นคาแรกเตอร์
ชื่อ “APE BOARD” มาจากคำว่า “APE” ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้ในกลุ่มนักลงทุนด้าน DeFi มีความหมายถึงการลงทุนได้รวดเร็วโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งตรงกับประโยชน์ของแพลตฟอร์มที่สามารถช่วยให้ความสะดวก และรวดเร็วแก่นักลงทุนด้าน DeFi จึงนำมาสู่ชื่อ “APE BOARD” นอกจากนี้ ยังได้นำเอาคาแรกเตอร์ของ “ลิง” ที่มีคาแรกเตอร์ฉลาด ขี้เล่น และว่องไว สะท้อนถึงจริตของนักลงทุนด้าน DeFi โดยนำสีม่วงมาใช้เนื่องจากในเชิงจิตวิทยา สีม่วงสามารถช่วยกระตุ้นความสร้างสรรค์และสติปัญญา ที่สำคัญยังช่วยสงบจิตใจที่ว้าวุ่นได้ด้วย จึงเหมาะกับการนำมาใช้กับโซลูชันด้านการลงทุนที่ต้องอาศัยสติและปัญญา ในขณะเดียวกันก็ต้องการความสมดุลในเรื่องของความสงบทางจิตใจด้วย
ปักธงสร้าง “ยูนิคอร์น” ตัวแรกขององค์กรภายใน 3 – 5 ปี
นายกวีวุฒิ กล่าวว่า ทีมงาน Venture Builder คาดหวังว่า การสนับสนุนของ SCB 10X นั้นเป็นการร่วมสร้างธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งสนับสนุนด้านการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมในทุกด้านที่จำเป็นต่อการสร้างธุรกิจ โดยเราใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงทรัพยากรที่มีอยู่แล้วของบริษัท มาสนับสนุนในการปั้นสตาร์ทอัพขึ้นมาใหม่ให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างสตาร์ทอัพยูนิคอร์นตัวแรกขององค์กรให้สำเร็จภายใน 3 - 5 ปีข้างหน้า และสามารถก้าวไปสู่เวทีโลกได้
นอกจากนี้ เรากำลังจะเปิด Incubation Program ในรอบต่อไปเร็วๆ นี้ เพื่อรับนักพัฒนาที่มีไอเดีย และอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดตามข่าวสารจาก SCB 10X และช่องทางต่างๆ ของ SCB 10X