แสนสิริ รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 37,000 โดส ยืนยันจะใช้เพื่อพนักงานและครอบครัว รวมทั้งทำประโยชน์แก่สังคมอย่างเต็มที่ เผยกลยุทธ์จัดสรรวัคซีน “แสนสิริและสังคม...คนละครึ่ง” 50% ของวัคซีนจัดให้แก่พนักงานแสนสิริทุกคนและครอบครัว รวม 9,000 คน อีก 50% เพื่อสังคมอีกกว่า 9,500 ชีวิตของคู่ค้า พันธมิตร ชุมชน และผู้ด้อยโอกาส ดีเดย์! ฉีดวันแรก 30 มิ.ย.นี้ ที่โรงพยาบาลเครือ BDMS พร้อมปูพรมทุกคนต้องได้วัคซีนภายในต้น ก.ค.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ ขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่พิจารณาเห็นชอบจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ให้แก่บริษัทฯ จำนวน 37,000 โดส แก่แสนสิริ ซึ่งการขอจัดสรรวัคซีนในครั้งนี้ เนื่องจากแสนสิริ เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนทั่วถึงที่สุดเร็วที่สุด อีกทั้งวัคซีนต้องเข้าถึงได้สำหรับคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาส
โดยแสนสิริ ได้วางกลยุทธ์การจัดสรรวัคซีน “แสนสิริและสังคม...คนละครึ่ง” เพื่อดูแลพนักงานแสนสิริทุกคนและครอบครัว ตลอดจนคืนประโยชน์แก่สังคมอย่างดีที่สุดตาม กำลังเต็มที่ของแสนสิริเท่าที่จะทำได้ ด้วยการจัดสรรวัคซีน 37,000 โดส ให้แก่พนักงานแสนสิริและครอบครัว จำนวน 18,000 โดส หรือสำหรับ 9,000 คน คิดเป็น 50% ของปริมาณวัคซีนที่ได้จัดสรรทั้งหมด และอีกกว่า 50% หรือ 19,000 โดส ให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชนรอบข้าง และผู้ด้อยโอกาส จำนวนรวมถึง 9,500 คน ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำ 10% ในการบริจาควัคซีนเพื่อสังคมที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ระบุไว้ เพื่อทำประโยชน์สู่สังคมและประเทศไทยจะได้เดินหน้าพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส 4 อย่างมีประสิทธิภาพ
“พนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร เมื่อทุกคนเต็มที่ในทำงานและดูแลลูกค้ากว่า 100,000 คนอย่างดีที่สุด องค์กรก็พร้อมจะทำเต็มที่ที่จะดูแลให้พนักงานทุกคนมีความอุ่นใจปลอดภัยในการทำงานและใช้ชีวิต ซึ่งเรายังดูแลเพิ่มเติมต่อไปยังครอบครัวพนักงานและผู้อยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับพนักงานอีกด้วย จะได้ช่วยคลายความกังวลใจของพนักงานในการจัดหาวัคซีนแก่ครอบครัว ซึ่งเมื่อพนักงานแสนสิริทุกคนในทุกโครงการ เช่น พนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัยได้รับการฉีดวัคซีน 100% ถือเป็นการยกระดับมาตรการความปลอดภัยอุ่นใจในการอยู่อาศัยในโครงการแสนสิริทุกโครงการได้อย่างดี”
นอกจากนั้น วัคซีนชิโนฟาร์มที่จะจัดสรร จำนวน 19,000 โดสให้แก่สังคมด้วยการฉีดให้แก่คู่ค้า พันธมิตร ชุมชน และผู้ด้อยโอกาสนั้น แสนสิริยังจะจัดสรรวัคซีนส่วนหนึ่งให้แก่ชุมชนรอบข้างสิริแคมปัส ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของแสนสิริ ที่ตั้งอยู่ที่ T77 สุขุมวิท 77 เช่น วินมอเตอร์ไซค์ พนักงานในฮาบิโตะ มอลล์ แม่ค้าแผงลอย ผู้ยากไร้ในชุมชน รวมกว่า 2,000 ชีวิตด้วย เพราะเราเล็งเห็นแล้วว่า คนกลุ่มนี้มีความลำบากในการถึงวัคซีน แสนสิริ ตั้งสำนักงานที่นี่ เราอยากให้ผู้ยากไร้และด้อยโอกาสที่ชุมชนนี้ได้รับโอกาสด้วย ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ยังเป็นการช่วยให้ T77 เป็นคอมมูนิตีที่มีคนฉีดวัคซีนมากที่สุด และมีความปลอดภัยสูงสุดจากการระบาดของโควิด-19 แห่งหนึ่งของประเทศ
ทั้งนี้ จะมีการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มวันแรกในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ณ โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) จะฉีดต่อเนื่องวันละ 1,500-2,500 คน เพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 18,500 คนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2564 และฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2564 โดยแสนสิริจะรับผิดชอบค่าจัดซื้อวัคซีนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นรวม 40 ล้านทั้งหมด
การจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์ม 37,000 โดส ด้วยกลยุทธ์ “แสนสิริและสังคม...คนละครึ่ง” นี้อยู่ภายใต้มาตรการ ‘Sansiri Care…เพราะเราห่วงใย’ ที่แสนสิริมุ่งมั่นสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยในวิกฤตการระบาดโควิด-19 โดยได้ทำการช่วยเหลือ 4 เสาสังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมาตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
“วัคซีนเปรียบเสมือนเกราะที่ทำให้สังคมเดินหน้าต่อได้ วันนี้เราพอมีกำลังที่จะช่วยเหลือพนักงาน คู่ค้าและพันธมิตร รวมถึงสังคมให้เข้าถึงวัคซีนได้ง่ายขึ้น ขอทำเต็มที่เพื่อเป็นฟันเฟืองหนึ่งของเครื่องจักรประเทศไทยในการลดความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 และเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศในไตรมาส 4 ปีนี้”