โนมูระ ประเมินหุ้นกลุ่มการบินยังฟื้นตัวไม่เร็ว หลังนายกฯ เตรียมเปิดประเทศใน 120 วัน ระบุ 5 ข้อสังเกตุที่ต้องระวัง ทั้งงบ Q2-Q3/64 ขาดทุน - ท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปีนี้ยังไม่แน่นอน ขณะที่สภาพคล่องหลายบริษัทยังสะดุดจากการดำเนินงาน แนะนำ Bearish ทั้งกลุ่ม ด้านทรีนีตี้ มีมุมมอง ‘เป็นกลาง’ ระบุ อาจเกิด Sentiment เชิงบวก แค่ระยะสั้นกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว-โรงพยาบาลที่อิงผู้ป่วยต่างชาติ -ค้าปลีก และนิคมฯ
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยในบทวิเคราะห์รายวัน ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดประเทศใน 120 วัน รวมถึงเปิดโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่จะเริ่มในเดือน ก.ค.64 ว่า CNS ยังคงสมมติฐานยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 64 ที่ 3 ล้านคน สอดคล้องกับเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ 3.5 ล้านคน และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 3 ล้านคน แต่สูงกว่าเป้าหมายของสภาพัฒน์ 0.5 ล้านคน (4 แรกเดือนปี 64 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 28,701 คน)
โนมูระ แนะนำ Bearish กลุ่มการบินทั้งกลุ่ม
อย่างไรก็ดีแม้ว่าการท่องเที่ยวมีโอกาสฟื้นตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี และราคาหุ้นกลุ่มการบินจะปรับตัวขึ้นแรงทั้ง AAV - BA - AOT แต่ CNS ยังไม่ได้มีมุมมองในเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน โดยยังแนะนำ Bearish ทั้งกลุ่ม เนื่องจาก 5 ปัจจัยสำคัญดังนี้
1. การฟื้นตัวของอุตฯ การบินไม่เร็วอย่างที่ตลาดคาดหวัง
2. กลุ่มการบินยังคงรายงานผลประกอบการขาดทุนสุทธิหนักต่อเนื่องในงวด Q2/64 และ Q3/64
3. การฟื้นตัวใน Q4/64 จากการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ยังมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น อยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ และสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศ
4. เชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มการบินที่ปัจจุบันฟื้นตัวสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้วโดยเฉพาะ AAV และ BA ราคาหุ้นปัจจุบันเทียบเท่า 1.25 เท่า และ 1.42 เท่า ของราคาหุ้นก่อนโควิด-19 สะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวของอุตฯ ในระดับสูงไปแล้ว
และ 5. กลุ่มการบินยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสภาพคล่องในการดำเนินงานอาจทำให้ ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น เช่น AOT มีแผนกู้เงิน 2.5 หมื่นลบ. เพื่อใช้ในปีงบประมาณ 65 และ AAV เกิด Dilution effect จากการเพิ่มทุน และมีแผนแปลงหนี้สินเป็นทุนและเตรียมนำบริษัทลูก Thai AirAsia เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ส่วน BA มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปรับโครงสร้างบริษัท เช่น มีแผนยกเลิกสัญญาเช่ากับ SPF อาจทำให้ต้องรับรู้ผลขาดทุนพิเศษกว่า 6 พันลบ. เป็นต้น
ยังคงแนะนำ REDUCE หุ้น AAV (ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 1.95 บาท) และ BA (ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 6.20 บาท) และ NEUTRAL หุ้นAOT (ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 63.50 บาท) อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นหุ้นกลุ่มการบินอาจมี Sentiment บวกจากความคาดหวังการฟื้นตัวจากคำแถลงของนายกฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.64
ทรีนีตี้ ชี้เปิดประเทศใน 120 วัน เป็นบวกหุ้นท่องเที่ยวระยะสั้น
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด มีมุมมอง ‘เป็นกลาง’ ต่อประเด็นการแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายการเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วันต่อจากนี้ ซึ่งจะตรงกับช่วงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากประเด็นสำคัญคงจะไม่ได้อยู่ที่การเปิดหรือไม่เปิด แต่น่าจะอยู่ที่ Appetite และ Willingness ของนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงผู้คนในประเทศในการที่จะกล้าออกมาเดินทางสัญจรมากขึ้นหรือไม่มากกว่า
ทั้งนี้หากมีนโยบายการเปิดประเทศไปแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง และ/หรือ จำนวนผู้ฉีดวัคซีน ณ ขณะนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ คาดว่านโยบายนี้ก็อาจจะไม่ได้มีผลอันเป็นสาระสำคัญในช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นข่าวนี้อาจทำให้เกิด Sentiment เชิงบวกในระยะสั้นขึ้นได้ต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, AAV, BA, MINT, CENTEL, ERW) กลุ่มโรงพยาบาลที่อิงผู้ป่วยต่างชาติ (BH, BDMS) กลุ่มค้าปลีกที่อิงนักท่องเที่ยว (CPALL) และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (AMATA, ROJNA, WHA)