นักลงทุนทั่วโลกเดือดขึ้นมาทันที หลัง "เจอโรม พาวเวลล์ "ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ออกประกาศผลการประชุมพร้อมเดินหน้าแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2566 กดราคาร่วงทันทีทั้งราคาเหรียญ Bitcoin พร้อมๆกับ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และ S&P 500
จากรายงานของ Cointelegraph ระบุว่าราคาเหรียญ Bitcoin หรือ BTC ปรับตัวลดลงทันที หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED สรุปผลการประชุมและลงความเห็นว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566
โดยราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงกว่า 2,000 ดอลลาร์ จากระดับ 40,000 ดอลลาร์ต่อ BTC ก็ลงมาถึงจุดต่ำสุดระหว่างวันที่อัตราแลกเปลี่ยน 38,300 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีหุ้น ดาวโจนส์ ก็ปรับตัวร่วงลงกว่า 0.77% และ S&P 500 ลดลงมากว่า 0.54%
ทั้งนี้การตัดสินใจดังกล่าวของ FED สร้างความกังวลต่อนักเศรษฐศาสตร์ในด้านอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการที่นายพาวเวลล์กล่าวว่า FED ประมาณการณ์แนวโน้มอัตราก้าวหน้าของเงินเฟ้อจาก 2.4% เพิ่มขึ้นเป็น 3.4% โดยมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน เป็นเพียง “ระยะสั้นและเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น” แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรเพิ่มเข้ามาตามมาตรการ ผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ Quantitative Eeasing (QE) อีกอย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในจำนวนวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์