หุ้นปิดพุ่ง 10.52 จุด รับเวิลด์แบงก์เพิ่มคาด GDP โลก ราคาน้ำมันขึ้น และการกระจายวัคซีน โดยภาพรวมตลาดเป็นลักษณะของการสลับกลุ่มเล่น จากหุ้นที่ปรับขึ้นมามากแล้วอย่างกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจจะสลับไปเล่นหุ้นพวก Domestic มากขึ้น อย่างหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มแบงก์
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้แรงหนุนจากธนาคารโลกปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เพิ่มเป็นเติบโต 5.6% สูงกว่า 4.1% ที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ทะลุ 70 เหรียญ/บาร์เรลไปแล้ว ส่วนในประเทศได้ปัจจัยบวกจากการทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากขึ้นหลังจากดีเดย์ทั่วประเทศ 7 มิ.ย.
อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายสัปดาห์นี้ตลาดอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยติดตามแนวทางนโบายการเงินในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/64) ตลาดจับตาเรื่องการปรับลด QE ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่หลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาได้ดีแล้วในระดับหนึ่ง แต่ในมุมมอง KGI ยังมองว่าน่าจะยังคงเดิม
นอกจากนี้ จับตาการประชุมระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านเรื่องแผนนิวเคลียร์ หากผลการประชุมออกมาดีสหรัฐฯ ก็อาจยกเลิกห้ามอิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะทำให้อุปทานเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันที่ขึ้นมาถึง 70 เหรียญ/บาร์เรลก็อาจพักฐาน ซึ่งทาง KGI ได้ประเมินเพดานราคาน้ำมันในปีนี้ไว้ที่ 60-70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะนี้ขึ้นมาชนเพดานแล้วจึงมองว่ามีโอกาสพักฐาน
ภาพรวมตลาดบ้านเราเป็นลักษณะของการสลับกลุ่มเล่น จากหุ้นที่ปรับขึ้นมามากแล้วอย่างกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจจะสลับไปเล่นหุ้นพวก Domestic มากขึ้น อย่างหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มแบงก์ เป็นต้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบระหว่างเฝ้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ โดยทาง KGI มองว่ามีโอกาสปรับขึ้น แต่อาจทยอยลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/64)
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,623.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.52 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.65% มูลค่าการซื้อขายราว 48,366 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,650 จุด