หุ้นปิดเช้าบวก 9.75 จุด รับ Sentiment บวกจากกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวันแรก ซึ่งช่วยหนุนตลาดได้ในระยะสั้นในระดับหนึ่ง สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่าย ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,600 จุด ได้ ระยะสั้นจึงดูดี และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย ซึ่งมองว่าตลาดคงจะแกว่ง Sideway up ในกรอบ
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นรับ Sentiment บวกจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศเป็นวันแรก ซึ่งช่วยหนุนตลาดได้ในระยะสั้นในระดับหนึ่ง แต่ยังต้องดูความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนด้วย ทำให้เป็นความคาดหวังการเปิดเมืองในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งภูเก็ตจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้แล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งปัจจัยนอกประเทศจะต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากขึ้นหลังจากที่เริ่มมีการพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันมากขึ้น และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังออกมาพูดว่า อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก็อาจจะเป็นผลดี
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะออกมาในวันพฤหัสนี้ และจับตาทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการชะลอทำโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐฯ ด้วยว่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดหรือไม่ รวมถึงรอติดตามการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือนนี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,621.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.75 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.60% มูลค่าการซื้อขายราว 49,932 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,600 จุด ได้ ระยะสั้นจึงดูดี และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย ซึ่งมองว่าตลาดคงจะแกว่ง Sideway up ในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,600-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด