คลังขอให้ผู้ปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ลดต้นลดดอก หรือเปลี่ยนประเภทหนี้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว เพื่อช่วยลูกค้า เนื่องจากพิษโควิด-19
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ที่เริ่มกลับมาแพร่ระบาดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 และจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความรุนแรงของการแพร่ระบาดยังไม่บรรเทาเบาบางลง รวมทั้งยังได้มีการแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจ การจ้างงาน และสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยในวงกว้าง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) จึงได้ออกหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ให้ลูกหนี้ตามความเหมาะสมและตามสมควรที่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แต่ละรายจะสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ของตนเองได้ โดยการ (1) ลดค่างวดหรือขยายระยะเวลาการชำระหนี้ (2) เปลี่ยนประเภทหนี้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว (3) พักชำระค่างวดหรือพักเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน หรือพักเงินหรือพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย หรือวิธีการอื่นใดที่จะสามารถช่วยบรรเทาภาระหนี้แก่ลูกหนี้ได้
นอกจากนี้ ยังได้ขยายระยะเวลาการส่งรายงานงบการเงินสำหรับรอบปีบัญชี พ.ศ.2563 ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ออกไปเป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564
ทั้งนี้ สศค. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เป็นลูกหนี้ของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนคนไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกัน ดังเช่นเมื่อครั้งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปี 2563
ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร.สายด่วน 1359