สบายไปอี๊ก เอาใจสายคริปโตสุดๆ เมื่อ 2 ยักษ์ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple Inc. บริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าแอปเปิ้ล ผู้ผลิตสินค้าไอทีทั้ง iPhone ,iPad ,iPod ,iMac ฯลฯ ตลอดจนถึงการให้บริการแอพพลิเคชั่นผ่าน App Store และ Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google ผู้ให้บริการ Search Engines ตลอดจนระบบ Cloud Service และการให้บริการแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันกับ Coinbase ในการให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการ
โดยล่าสุด Coinbase ได้ร่วมมือกับทั้ง Apple Inc. และ Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google ได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้บัตรเดบิต Coinbase ซึ่งเป็นที่เก็บสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทเหรียญคริปโต สามารถนำมาจ่ายค่าสินค้าและบริการแทนเงินสดในชีวิตประจำวันได้ผ่านแพลตฟอร์มช่องทางการชำระเงินของทั้งสองแบรนด์สินค้าคือทั้ง Apple pay และ Google pay
อย่างไรก็ดีการร่วมมือกันระหว่าง Coinbase ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเทรดคริปโตซึ่งมีมูลค่าสูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลก กับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี นำไปสู่การพัฒนารูปแบบการชำเงินนอกเหนือจากที่มีอยู่เดิม ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่า การที่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น Apple หรือ Google เองก็ตามที่กำลังซุ่มพัฒนาโครงการด้าน Cryptocurrency หรือ ปั๊มเงินเหรียญดิจิทัลขึ้นมามีเค้าลางความเป็นไปได้ที่จะถูกนำไปใช้ในอนาคตมากขึ้นโดยนำร่องด้วยการร่วมมือกับ Coinbase
ทั้งนี้บัตรเดบิต Coinbase ถือได้ว่าเป็นบัตรเครดิตคริปโตที่มีการยอมรับอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้าง ที่ลูกค้าผู้เทรดคริปโต สามารถใช้เหรียญคริปโตในบัญชี นำออกมาจ่ายเป็นเงินสดได้ ซึ่งทางทาง Coinbase จะมีบริการแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐในทุกๆ ครั้งที่ลูกค้านำไปจ่ายค่าสินค้าและบริการ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบางร้านที่ Coinbase ชำระเงิน แต่ร้านไม่ได้รับเหรียญคริปโตในการชำระค่าสินค้าและบริการนั้น ๆ เนื่องจากร้านจะรับเป็นเงินเหรียญดอลล่าร์ แต่ด้วยฐานสภาพคล่องของตลาดซึ่งมีอยู่มาก และมาร์เก็ตแคปของ Coinbase ซึ่งได้รับการยอมรับในตลาดเทรดเหรียญคริปโตนั้นทำให้เหรียญ Crypto ที่ถืออยู่สามารถนำมาใช้แลกเป็นเงินสดได้สะดวกมาก โดยเปิดให้บริการรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินดอลล่าร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันต่ออาทิตย์ และตลอด 365 วันต่อปี ไม่มีวันหยุดนักขัติฤกษ์ และอีกทั้งทางบัตรเดบิตยังสามารถถอนเงินออกจากตู้ ATM ได้อีกด้วย
ทั้งนี้จากการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ถือว่าอาจเป็นการสร้างแรงกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ผู้ให้บริการชำระเงินรายอื่นๆ เปิดกว้างและกระตุ้นให้ตลาดมีการแข่งขันกันมากขึ้นด้วย เพราะแม้กระทั่ง Paypal ซึ่งเป็นเจ้าตลาดรับชำระเงินยักษ์ใหญ่เดิมที่ถือครองระบบออนไลน์ทั่วโลกก็ปรับตัวให้ลูกค้าสามารถชำระเงินเป็นเหรียญคริปโตได้แล้วเช่นกัน
งานนี้คงต้องลุ้นกันว่าสถาบันการเงินในแต่ละประเทศ หรือผู้ประกอบการสินค้าและให้บริการรายใด เริ่มขยับให้รับชำระด้วยเหรียญคริปโตตามต่างประเทศ อย่างที่ Apple Inc. และ Google เริ่มให้บริการแล้ว