ฝ่ายวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ระบุธนาคารยังคงประมาณการ GDP ปีนี้ไว้ที่ 2.0% และยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แม้จะมีปัจจัยเชิงบวกจากมาตรการภาครัฐที่จะมีเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงการคลังระบุว่าอาจจะกู้เงินจาก พ.ร.ก.ฉบับใหม่ 5 แสนล้านบาท ในปีนี้ก่อนประมาณ 1 แสนล้านบาท และเมื่อรวมกับมาตรการเยียวยาที่ภาครัฐจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป วงเงินประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ผ่านโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูง จึงคาดว่าจะมีเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาทช่วยหนุนเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังท่ามกลางความเป็นไปได้ของการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดระลอกสามของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนและอาจยืดเยื้อรุนแรงกว่าที่เคยประเมินไว้
ขณะที่การส่งออกขยายตัวได้ดี โดยมูลค่าส่งออกเดือนเมษายนขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยคาดในไตรมาส 2 ปีนี้ ยังคงเห็นการส่งออกเติบโตเป็นเลขสองหลัก เนื่องจากผลของฐานที่ต่ำในปีก่อน กอปรกับได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีคาดว่าหลังจากผลของฐานต่ำหมดลง การส่งออกของไทยจะกลับมาเติบโตในเลขหลักเดียว แต่ยังคงได้แรงหนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นตามการเปิดประเทศ และความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนซึ่งจะช่วยเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยวิจัยกรุงศรีคาดแนวโน้มการส่งออกที่เติบโตดีและมาตรการภาครัฐที่อาจมีเพิ่มเติมจะเป็นแรงหนุนพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้