ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 พ.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 แม้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีก็ตาม โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดตลาดในสัปดาห์นี้บวกขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,529.45 จุด เพิ่มขึ้น 64.81 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,204.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.23 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,748.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด หรือ +0.09%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินของอังกฤษที่ปรับตัวขึ้นขานรับความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มการใช้จ่ายด้านการคลังที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ โดย ปธน.โจ ไบเดน เตรียมที่จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 448.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.54 จุด หรือ +0.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,484.11 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,519.98 จุด เพิ่มขึ้น 113.25 จุด หรือ +0.74% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,022.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด หรือ +0.04%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และนักลงทุนขานรับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ขณะที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป โดยตลาดมุ่งความสนใจไปที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเตรียมเปิดเผยงบประมาณปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,022.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด หรือ +0.04%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้น 5 วันติดต่อกัน และก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในสัปดาห์หน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 66.32 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 4.3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาและในเดือน พ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 69.63 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.8% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือน พ.ค.
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) และเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์นี้และในเดือน พ.ค. โดยอยู่เหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงเกินคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,905.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. และสัญญาทองคำยังเพิ่มขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 7.8% ในเดือน พ.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 28.014 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,182.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,830.10 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% แตะที่ 90.0300 เมื่อวันศุกร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.80 เยน จากระดับ 109.78 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8993 ฟรังก์ จากระดับ 0.8970 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2078 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2065 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2196 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2198 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4192 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4209 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7709 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7744 ดอลลาร์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,529.45 จุด เพิ่มขึ้น 64.81 จุด, +0.19%,
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,204.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.23 จุด, +0.08%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,748.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด, +0.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,022.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด,+0.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,484.11 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด, +0.75%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,519.98 จุด เพิ่มขึ้น 113.25 จุด, +0.74%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 51,422.88 จุด เพิ่มขึ้น 307.66 จุด, +0.60%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,848.62 จุด เพิ่มขึ้น 6.79 จุด, +0.12%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,594.44 จุด เพิ่มขึ้น 0.54 จุด, +0.03%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,674.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, +0.14%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,178.50 จุด เพิ่มขึ้น 13.68 จุด, +0.43%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,870.86 จุด เพิ่มขึ้น 269.25 จุด, +1.62%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,124.41 จุด เพิ่มขึ้น 11.21 จุด หรือ +0.04%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,600.78 จุด ลดลง 8.07 จุด, -0.22%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,188.73 จุด เพิ่มขึ้น 23.22 จุด, +0.73%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 29,149.41 จุด พุ่งขึ้น 600.40 จุด, +2.10%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,179.50 จุด เพิ่มขึ้น 84.60 จุด, +1.19%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,424.00 จุด เพิ่มขึ้น 80.00 จุด, +1.09%