xs
xsm
sm
md
lg

พ่อมดการเงินตั้งการ์ด แนะเลี่ยง Bitcoin

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พ่อมดการเงิน แนะนักลงทุน อย่าเสี่ยงลงทุนในคริปโต เพราะมีความผันผวนสูง อีกทั้งไม่มีอะไรบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า Bitcoin ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ใด ๆ และไม่เชื่อว่าคริปโตนี้จะมีมูลค่าที่แท้จริง

Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนใน Virtual Hearing ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเสนอความเห็นว่า "นักลงทุนยังไม่ควรลงทุนใน Bitcoin"เนื่องจากไม่มีอะไรบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า Bitcoin ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ใด ๆ และ ไม่เชื่อว่าคริปโตนี้จะมีมูลค่าที่แท้จริง

โดยเขาได้ตอบคำถามของ Warren Davidson ตัวแทนจากโอไฮโอ ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาที่มีแนวโน้มเชิงบวกในการลงทุนคริปโตว่า “สำหรับคำแนะนำส่วนตัว อยากให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปควรอยู่ให้ห่างจากคริปโต” Dimon กล่าว

แม้ว่ามุมมองส่วนตัวของ Dimon เกี่ยวกับ Bitcoin ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่การแสดงออกและน้ำเสียงที่เขาพูดออกมาต่อความเห็นด้านนี้ของเขา ซึ่งแสดงท่าทีก้ำกึ่งไม่ได้ปิดโอกาสสำหรับลูกค้าของ JPMorgan ว่าไม่ควรลงทุนใน Bitcoin เสียทีเดียว โดยสิ่งนี้ย้อนกลับไปถึงวิธีการดำเนินธุรกิจ โดย Dimon ได้ยก กัญชา มาเป็นตัวอย่างว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้สูบกัญชา แต่ถ้าหากคุณทำให้มันถูกกฎหมายในระดับประเทศ ผมก็จะไม่ห้ามลูกค้าจากการทำธุรกรรมทางการเงินและอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้ห้ามคนอื่น ๆ ว่าควรใช้เงินของตนอย่างไร ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมจะมีความรู้สึกกับสิ่งของบางอย่างที่ผู้คนอาจซื้อด้วยเงินของเขาเองก็ตาม”

ด้วยเหตุนี้ Dimon คิดว่าหน่วยงานกำกับดูแลควรก้าวเข้ามาและควบคุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น crypto

ขณะเดียวกันเขาได้พยายามแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและหลักประกันที่จะคุ้มครองนักลงทุน ว่าหน่วยงานที่กำกับดูแล ควรก้าวเข้ามาและควบคุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น crypto และให้ความสำคัญกับอนาคตการชำระเงิน , การซื้อขายที่มีความถี่สูง , สกุลเงินดิจิทัล , โดยการวางกรอบกฎหมายและกฎระเบียบให้มีความชัดเจน ขณะที่ทางด้าน David Solomon ซีอีโอของ Goldman Sachs กล่าวใน Hearing จากผลการสำรวจพบว่าลูกค้ามีความต้องการที่จะลงทุนใน Crypto และอยากให้เปิดกว้างรับการลงทุนใน Bitcoin

ด้านนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ BOJ ได้ออกมากล่าวถึงลักษณะป้องปรามนักลงทุนที่กำลังสนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ เหรียญดิจิทัลว่า Bitcoin นั้นจัดได้ว่าเป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของราคา โดยการซื้อขายส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรและความผันผวนก็สูงเป็นพิเศษ และแทบจะไม่ได้ใช้เป็นวิธีการ settlement เลย โดยขณะนี้ทางธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจต่อ Stablecoins เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยเงินเยนดิจิทัลกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในระบบ Sandbox ที่ให้ความสำคัญกับการเลิกใช้เงินกระดาษ เนื่องจาก Stablecoins นั้นแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ ตรงที่มีสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่แท้จริงเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ Stablecoins ก็เป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล อีกทั้งประเมินว่าจะเป็นวิธีการชำระเงินที่สะดวกสบายในอนาคต

อย่างไรก็ดีแม้ว่าธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่นจะได้มีการอนุมัติให้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีในการทำธุรกรรมสาธารณะแล้ว และยังสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี อย่างเช่น บริการการแลกเปลี่ยนและกระเป๋าเงินคริปโต โดยข้อมูลจาก CoinGecko เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นมีมูลค่าการซื้อขายคริปโตไม่น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ บนแพลตฟอร์มในประเทศ โดยเฉพาะเหรียญหลักๆ เช่น บิทคอยน์ (BTC), Ethereum (ETH), และ MonaCoin (MONA)

ทั้งนี้จากถ้อยแถลงของผู้ว่าการ BOJ นั้นสอดคล้องกับมุมมองของผู้บริหารธนาคารกลางในอีกหลายๆประเทศที่แสดงที่เชิงลบต่อเหรียญคริปโตเมื่อราคาของ Bitcoin ปรับลดลงในช่วงเวลาต่างๆ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม Luis de Guindos รองประธานธนาคารกลางยุโรปได้แสดงความรู้สึกเชิงลบเกี่ยวกับ Bitcoin โดยมองว่าสกุลเงินดิจิทัลมีปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอ และไม่มีคุณสมบัติในการลงทุนจริง สอดรับกับ Lars Rohde ผู้ว่าการธนาคารกลางของเดนมาร์ก ซึ่งให้ความเห็นว่า Cryptocurrencies เป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง และเป็นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เป็นคู่แข่งขันที่ร้ายกาจต่อธนาคารอย่างแท้จริง นอกจากนี้ Andrew Bailey ผู้ว่าการธนาคารแห่งอังกฤษ ก็ได้ออกมาแนะนำนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่อาจจะสูญเงินทั้งหมดหากเข้าไปลงทุนใน Bitcoin เพราะความผันผวนไม่แน่นอนสูง


กำลังโหลดความคิดเห็น