สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 พ.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาบิตคอยน์ยังเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,084.15 จุด เพิ่มขึ้น 188.11 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,159.12 จุด เพิ่มขึ้น 43.44 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,535.74 จุด เพิ่มขึ้น 236.00 จุด หรือ +1.77%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และข่าวการเจรจาควบรวมกิจการในธุรกิจผลิตชิป แม้ว่านักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 441.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.56 จุด หรือ +1.27%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,343.58 จุด เพิ่มขึ้น 81.03 จุด หรือ +1.29%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,370.26 จุด เพิ่มขึ้น 256.70 จุด หรือ +1.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.79 จุด เพิ่มขึ้น 69.59 จุด หรือ +1.00%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และการเปิดเผยคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใส

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.79 จุด เพิ่มขึ้น 69.59 จุด หรือ +1.00%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า อิหร่านอาจกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง เนื่องจากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้าและอาจทำให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 62.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 65.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,881.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 4.2 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 28.067 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 14.60 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,870.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินอื่นๆ ที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงด้วย

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.48% สู่ระดับ 89.8104 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.79 เยน จากระดับ 109.23 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8982 ฟรังก์ จากระดับ 0.9042 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2059 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2136 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2167 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งขึ้นสู่ระดับ 1.4185 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4104 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7712 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,084.15 จุด เพิ่มขึ้น 188.11 จุด, +0.55%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,159.12 จุด เพิ่มขึ้น 43.44 จุด, +1.06%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,535.74 จุด เพิ่มขึ้น 236.00 จุด, +1.77%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.79 จุด เพิ่มขึ้น 69.59 จุด, +1.00%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,343.58 จุด เพิ่มขึ้น 81.03 จุด, +1.29%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,370.26 จุด เพิ่มขึ้น 256.70 จุด, +1.70%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 49,564.86 จุด ลดลง 337.78 จุด, -0.68%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,797.60 จุด เพิ่มขึ้น 37.01 จุด, +0.64%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,575.32 จุด ลดลง 5.20 จุด, -0.33%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,197.64 จุด ลดลง 48.07 จุด, -0.77%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,109.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด, +0.18%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,450.29 จุด ลดลง 143.52 จุด, -0.50%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,506.94 จุด ลดลง 4.02 จุด, -0.11%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,042.36 จุด ลดลง 90.30 จุด, -0.56%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,162.28 จุด ลดลง 10.77 จุด, -0.34%)

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,098.25 จุด เพิ่มขึ้น 53.80 จุด, +0.19%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,019.60 จุด เพิ่มขึ้น 87.90 จุด, +1.27%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,252.60 จุด เพิ่มขึ้น 86.90 จุด, +1.21%