"เธียรสุรัตน์" ไตรมาสนี้กำไรแตะ 33.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.13% ผลจากปรับสัดส่วนจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องผลิตน้ำแข็งยี่ห้อ "อัลไพน์" และชุดบำบัดน้ำใช้ (Watermate) พร้อมทั้งรุกขยายสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ดอกผลเพิ่มขึ้น ขณะบอร์ดอนุมัติปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผล
นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.13% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 24.79 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายรวมรายได้ดอกผลตามสัญญาเช่าซื้อ และรายได้จากลูกหนี้เงินให้สินเชื่อของบริษัทย่อย (รายได้รวม) เท่ากับ 473.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.24% ขณะที่ต้นทุนขายต่อยอดรายได้รวมที่ลดลงจาก 23.20% เหลือ 21.14% โดยที่กำไรต่อหุ้นของกลุ่มบริษัทในไตรมาสนี้เท่ากับ 0.059 บาทเทียบกับผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 0.045 บาท
"รายได้จากการขายรวมที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากการปรับ Business and Product Portfolio Management ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ได้แก่ การจำหน่ายเครื่องผลิตน้ำแข็งยี่ห้ออัลไพน์ และชุดบำบัดน้ำใช้ (Water mate) รวมกับการขยายสินเชื่อไปในธุรกิจ Floor Plan และสินเชื่ออื่นจนทำให้รายได้ดอกผลเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีวิกฤตของโรคระบาด COVID-19"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงมีการพัฒนาระบบการขายแบบ O-2-O (Online to Offline) เพื่อดำเนินกลยุทธ์การตลาดแบบ Digital Marketing อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการโทรศัพท์หาลูกค้าไม่ว่าจะเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า และการทำแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับการขายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องกรองน้ำโดยอาศัยจุดแข็งของโปรแกรม “ผ่อนสบาย” ประสานกับทีมเดินตลาดขายตรงของบริษัทที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดของประเทศไทย
ในปี 2564 ถือเป็นปีแห่งการปรับภาพลักษณ์องค์กรด้วยการสร้างอัตลักษณ์องค์กรและเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ด้วยแนวคิดต้องการสร้างแบรนด์องค์กรและแบรนด์ย่อยให้ชัดเจน เพื่อสะท้อนตำแหน่งแบรนด์ตามวิสัยทัศน์ที่ว่าเป็นมากกว่าผู้ผลิตเครื่องกรองน้ำ พร้อมทั้งขยายและต่อยอดธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจในเครือ โดยเรียกชื่อบริษัทใหม่เป็น "ทีเอสอาร์"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทยังคงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจหลักได้แก่ เครื่องกรองน้ำดื่ม โดยมีการปรับกลยุทธ์ขยายตลาดไปยังกลุ่ม B2B มากขึ้น จากเดิมที่เน้นกลุ่ม B2C เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง และจะปรับเพิ่มสัดส่วนลูกค้าเงินสดมากขึ้น จากเดิมที่มีพอร์ตลูกค้าเงินผ่อนมากกว่า 80% รวมถึงแผนการขยายสาขาและทีมขายอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวของตลาดจากการปรับ Business and Product Portfolio Management ที่เกี่ยวกับน้ำ การจำหน่ายเครื่องผลิตน้ำแข็งยี่ห้ออัลไพน์ และชุดบำบัดน้ำใช้ (Water mate) ตลอดจนการทำตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางการจำหน่าย Website ที่ชื่อ DrinkCo
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สามารถผลิตน้ำดื่มที่สะอาด ถูกสุขอนามัย รวมทั้งการพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย โดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการตามแผนของการลดต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาระบบการผลิตและการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในปี 2564 บริษัทดำเนินธุรกิจตามแผนงานและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างมั่นคงในปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ได้มีการอนุมัติเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลโดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะของบริษัท เป็นพิจารณาจากงบการเงินรวมของบริษัท