นักวิเคราะห์จากหลายสำนักมั่นใจหุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือหุ้นทรู ว่ามีอนาคตดีและน่าลงทุน เริ่มจาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE ว่า ปี 2564 จะเป็นภาพของการฟื้นตัว ลุ้น Turnaround รอบใหญ่
ทรูมูฟ เอช ขยายฐานลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งและรายงานจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิของลูกค้าระบบรายเดือนสูงเหนืออุตสาหกรรมที่ 450 พันราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิทั้งสิ้น 581 พันราย ในไตรมาส 1 ขยายฐานผู้ใช้บริการรวมเป็น 31.2 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 21 ล้านราย และระบบรายเดือน 10.2 ล้านราย ขณะที่บริการ 5G เติบโตต่อเนื่อง จนมีผู้ใช้งาน 5G บนระบบทรูมูฟ เอช กว่า 7 แสนราย จะเห็นได้ชัดว่าการเติบโตของลูกค้ารายเดือนที่เป็นฐานลูกค้าทำรายได้สูง การมีจำนวนลูกค้ารายเดือนกว่า 10 ล้านรายนั้นจะทำให้รายได้กลุ่มมือถือมีการเติบโตอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า TRUE จะดีขึ้นอย่างยั่งยืนในทุกหน่วยธุรกิจ สมศักดิ์ศรีการเป็นหุ้นสื่อสารสัญชาติไทย ด้วยเหตุผล 3 ประการ
1) ธุรกิจมือถือผ่านรอบการลงทุนหนักที่สุด ทั้งในคลื่นและโครงข่ายและผ่านการจ่าย vendor financing ที่สูงที่สุดในปี 2564 ไปแล้ว ขณะที่ฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีหลังสุด แต่ไม่เกิดดอกออกผล เพราะการแข่งขันด้านราคาจะกลับมาส่งผลบวกเป็นอัตราเร่ง หากการแข่งขันด้านราคาลดลงในปี 2564
2) ธุรกิจ Broadband กระแส Work From Home ที่ต่อเนื่องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะยาว เมื่อบวกกับการก้าวเข้าสู่ยุค 5G และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ OTT ทำให้ตลาด Broadband ยังโตต่อ 2%-3% เป็นไปได้
3) ธุรกิจ PayTV แม้ไม่สดใสแต่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม Media หากวัคซีนปลดล็อกภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังของปี 2564 ขณะที่กลยุทธ์การปรับไปทำ Platform Streaming อย่าง TrueID จะช่วยบรรเทาผลกระทบของธุรกิจ Traditional ที่อ่อนแอลง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองว่า จำนวนผู้ใช้ 5G ของ TRUE จะพุ่งแตะ 1 ล้านราย ณ สิ้นปี 64 วางงบลงทุน 4-6 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมค่าใบอนุญาตคลื่น) ในช่วงปี 63-65 เพื่อรองรับการลงทุนโครงข่ายและอุปกรณ์ 5G บริษัทติดตั้งเสาโทรคมนาคมไปมากกว่า 1 หมื่นเสาและครอบคลุมครบ 77 จังหวัด ซึ่งเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลได้ขยายโครงข่ายไปแล้ว 98% ในปีนี้จะเน้นเพิ่มเสา
อย่างไรก็ตาม ยังคงคาดการณ์อย่างอนุรักษนิยมว่า ขาดทุนหลักปีนี้จะลดลงมากถึง 60% จากปีก่อน งบลงทุนได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในปี 63 และมีแนวโน้มลดลงทั้งในปี 64 และ 65 รวมทั้งมองว่า 5G จะผลักดันรายได้ ARPU และผลประกอบการหลักของ TRUE ให้กลับมาพลิกฟื้นในระยะยาว ยังเป็นหุ้นที่แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”
ปัจจัยที่น่าสนใจของหุ้นทรูยังมีอีก เช่น ธุรกิจหลัก คือ เครือข่ายมือถือ 5G และปัจจัยจากโควิด-19 ทรูก็ได้ขยับจากผู้เล่นรายเดือน จ่อเบียดเบอร์ 1 ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าตลาดจะเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านราคา มานำเสนอนวัตกรรม ดิจิทัล โซลูชัน และ IOT บริการที่เน้นการต่อยอดเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
นายสืบศักดิ์ สืบภักดี เลขาธิการสมาคมโทรคมนาคม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สทค.) กล่าวว่า “ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจสื่อสารไทยมีความคึกคักจากการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี 5G ไทยจะเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า “digital infrastructure service” บริการต่างๆ จะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปดิจิทัล โดยมีเครือข่าย 5G เป็นรากฐาน”
หากวิเคราะห์สถานการณ์หลังโควิด-19 คนไทยปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีเร็วและเริ่มคุ้นกับการใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ การปรึกษาแพทย์ทางไกล ที่เห็นชัด คือ อีเพย์เมนต์โตก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลุ่มทรูมีระบบนิเวศดิจิทัลที่ค่อนข้างครบ เช่น ทรูมันนี่ (True Money) และกลุ่มการค้าออนไลน์ (Ascend commerce) นอกจากนี้ กลุ่มทรู ดิจิทัลยังเป็นอนาคตของกลุ่มทรูที่น่าจับตามอง
ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 26,900 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 35,400 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2564
จากปัจจัยหนุนโดยการเติบโตของฐานผู้ใช้บริการทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ และดิจิทัล ในขณะเดียวกัน มาตรการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ลดลง 5.5% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 21,400 ล้านบาท ทำให้ทั้ง EBITDA และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 15% และ 41.4% เป็น 14,100 ล้านบาท และ 3,300 ล้านบาท ตามลำดับ