หุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) เป็นกลุ่มที่นักลงทุนชื่นชอบกันมาก มีมาร์เกตแคปรวมสูงที่สุดใน 28 กลุ่มอุตสาหกรรม ณ 14 พ.ค.64 สูงถึง 3,966,613 ล้านบาท โดยมีทั้งหมด 59 หลักทรัพย์ และ 10 อันดับที่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังทำผลประกอบการด้านราคาบวกได้ ในระดับ 50% ขึ้นไป
1.7UP (บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์) ประกอบธุรกิจสถานีบริการแก๊สและน้ำมัน สื่อสารโทรคมนาคม พลังงานทดแทน ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 5,584 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.43 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 1.13 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ +162.79%
2.AKR (บมจ.เอกรัฐวิศวกรรม) ประกอบธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าและบริการซ่อมบำรุงรักษา รับออกแบบติดตั้งรวมทั้งก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย รวมทั้งผลิตและจำหน่ายเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 1,478 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.54 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 1.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.56 บาท หรือ +103.70%
3.MDX (บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภคพื้นฐานและพลังงาน ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 2,378 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 2.50 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +100.00%
4.AGE (บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี) ประกอบธุรกิจผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 3,191 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 1.75 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 3.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท หรือ +88.57%
5.TCC (บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น) ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นและเข้าไปบริหารงานในบริษัทต่างๆ (Holding Company โดยทำธูรกิจแปรรูปและค้าปลีกถ่านหิน ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 537 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.23 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 0.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท หรือ +82.61%
6.SKE (บมจ.สากล เอนเนอยี) ประกอบธุรกิจหลักคือสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน 2 สถานี และมีบริษัทย่อยประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) รวมถึงโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิตติดตั้งขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 1,070 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.64 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 1.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.51 บาท หรือ +79.69%
7.ETC (บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์) ประกอบธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ออกแบบวิศวกรรมโรงไฟฟ้า การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์โรงไฟฟ้า ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 7,482 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 1.87 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 1.47 บาท หรือ +78.61%
8.SCN (บมจ.สแกน อินเตอร์) ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชน ธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์
ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 3,264 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 1.71 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 2.72 บาท เพิ่มขึ้น 1.01 บาท หรือ +59.06%
9.RPC (บมจ.อาร์พีซีจี) ประกอบธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจหลัก (เดิม) ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันขนาด 17,000 บาร์เรลต่อวัน บริหารคลังน้ำมัน 1 แห่ง ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 1,226 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 0.61 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 0.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.33 บาท หรือ +54.10%
10.GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) ประกอบธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายอปุกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจผลิตและจําหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ณ 14 พ.ค.64 มาร์เกตแคป 33,931 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 63 ปิดที่ 2.52 บาท ล่าสุด 29 เม.ย.64 ปิดที่ 3.82 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ +51.59%
ส่วนหุ้นดังๆ บิ๊กแคป ผลประกอบการราคา YTD เป็นบวกยังมีอีกหลายตัว แต่ไม่สูงมากนัก เช่น EA +21.32%, PTTEP +21.41%, BCP +18.93%, TOP+12.50%, IRPC +8.60%, BANPU +8.18%
ขณะที่ตัวดังๆ ติดลบเช่น BGRIM -17.01%, EGCO -10.91%, GPSC -5.76%, PTT -5.29%, RATCH -5.19%, GULF-4.38%
เป็นที่น่าสังเกตว่า TOP 10 เหล่านี้ล้วนเป็นหุ้นตัวเล็กมาร์เกตแคปหลักพันล้านบาทเกือบหมด ยกเว้น GUNKUL ที่มาร์เกตแคปหลักหมื่นล้านบาทเพียงตัวเดียว