หลังจากที่ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Elon Musk ได้ออกมาทวิตถึง Bitcoin หรือ BTC ว่าการขุดเหมืองคริปโตนั้น เป็นการใช้พลังงานฟอสซิลที่สิ้นเปลือง และทำลายมลภาวะสิ่งแวดล้อมของโลกอย่างมากเนื่องจากบริษัทเทสล่ามองว่าการใช้พลังงานฟอสซิลไปกับการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานจากถ่านหิน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและเกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศน์
โดยจากที่เขาออกมาทวิตได้ไม่นานส่งผลทำให้ราคาเหรียญ Bitcoin ปรับตัวร่วงลงทันที -12% และราคาเหรียญอื่นๆ ปรับตัวร่วงตามลงไปด้วยทั้ง Ethereum -6% , Binance Coin -8% , Dogecoin -13% , Cardano -9% และ XRP -13% ซึ่งก่อนหน้านี้ต้นสัปดาห์ที่เขาไปออกรายการ Saturday Night Live ก็ได้มีการพูดถึง Dogecoin ในลักษณะที่ว่าเป็น A Hustle ซึ่งส่งผลทำให้ Dogecoin มีราคาปรับตัวลดลงถึง 0.47 ดอลลาร์ (จากข้อมูลของบริษัท Binance ลดลง 28%) โดยหลังจากการออกรายการ Saturday Night Live เขาก็ได้ออกมาปลอบใจนักลงทุนเทรดเหรียญคริปโต และส่งสัญญาญปั่นเหรียญ Dogecoin อีกครั้งว่าจะมีการนำเอา Dogecoin ไปอวกาศ ส่งผลทำให้ราคาของมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
มาช่วงสายของวันนี้ Elon Musk กลับลำประกาศว่ากำลังร่วมมือกับทีมในการเข้าพัฒนา Dogecoin เพื่อวางแนวทางนำมาใช้ซื้อขายสินค้าในกลุ่มบริษัทเทสล่า เป็นนัยยะว่าเพื่อจะใช้ Dogecoin เข้ามาแทนที่ Bitcoin จากที่เขาประกาศว่าจะยกเลิกการใช้ BTC มาใช้ซื้อขายรถยนต์ไปก่อนหน้านี้
หลังจากที่เขาประกาศได้ไม่นาน กระแสการตอบรับของเหรียญ Dogecoin ก็ดีดกลับขึ้นมาทันที โดยราคาเหรียญ Dogecoin ปรับพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจากระดับ 0.428 ดอลลาร์ไป 0.519 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีการย่อตัวลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 0.478 ดอลลาร์ในขณะนี้
" Elon Musk สูญเงิน 6 แสนล้านบาท หลังประกาศไม่รับ Bitcoin จ่ายค่ารถ TESLA"
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเดอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หุ้นของบริษัท Tesla ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐ (NASDAQ:TSLA) ซึ่งมีราคาซื้อขายอยู่ที่อยู่ที่ 669 ดอลลาร์ แต่หลังจากมีการประกาศยกเลิกการรับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ในวันที่ 13 พฤษภาคม ราคาหุ้นของบริษัท Tesla ลดลง 14% เหลืออยู่ที่ 573 ดอลลาร์ จากข้อมูลการประมาณการของ Forbes โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ Elon Musk ต้องสูญเสียเงินไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจาก CoinGecko รายงานว่าการประกาศของ Elon Musk ไม่เพียงแต่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัท Tesla ผันผวน แต่ยังทำให้ราคาของบิทคอยน์ลดลง 8.1% จาก 54,448 ดอลลาร์ เหลือเพียง 50,000 ดอลลาร์
ขณะที่ Alex Mashinsky ในฐานะ CEO ของ Celcius Network ออกมาแสดงความเห็น ถึงพฤติกรรมชี้นำตลาดของ Elon Musk ว่า อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีไม่ต้องการคนอย่าง Elon Musk เพราะเหตุผลว่า บิทคอยน์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 20 ล้านเปอร์เซ็นต์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุดในช่วง 10 ปี และอุตสาหกรรมคริปโตจะดำเนินไปได้ด้วยดีโดยไม่จำเป็นต้องมี Elon Musk
นอกจากนี้ Alex Mashinsky ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าหาก Tesla ทำกำไรจากการขายบิทคอยน์ส่วนหนึ่งที่ถือครองอยู่ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเพิ่มผลการดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 1 มันก็ควรเพียงพอแล้วแล้วไม่ใช้หรือ
ด้าน Michael Saylor ซึ่งเป็น CEO ของ MicroStrategy ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ Elon Musk เพิ่มบิทคอยน์ในงบดุลของบริษัท Tesla ก็ได้ออกมาพูดถึงการประกาศหยุดรับชำระด้วยบิทคอยน์ เนื่องจากความกังวลเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน “เทคโนโลยีของบิทคอยน์ช่วยให้ผู้คน 8 พันล้านคนมีสิทธิในทรัพย์สินของพวกเขา และยังแก้ปัญหาเงินเฟ้อกับค่าเงินที่ลดลงที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี” และเมื่อวานนี้ MicroStrategy ได้ช้อนซื้อ BTC จำนวน 271 เหรียญหลังจากประกาศของ Elon Musk ทำให้ตอนนี้บริษัทถือครองบิทคอยน์อยู่กว่า 91,850 Bitcoin
ตลาด Crypto ร่วงยกแผงเกิน -10% ! หลัง Binance โดน ก.ยุติธรรมสหรัฐเข้าตรวจเข้าข่ายฟอกเงิน !
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทาง Binance ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ได้ร่วมมือกับทางกระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจหาผู้ใช้ที่อาจทำธุรกรรมผิดกฎหมายหรือฟอกเงินได้ ซึ่ง Binance ถือได้ว่าเป็นกระดานเทรด Crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอาจมีการหมกเม็ดทำธุรกรรมฟอกเงินที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย และไม่มีการควบคุมจากทางการ (unregulated market)
ซึ่งหลังจากกระแสข่าวนี้แพร่ออกไปส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงต่อเนื่องลงไประดับ 47,000 เหรียญอีกครั้ง และเหรียญ Crypto ทั้งตลาดก็ร่วงเกือบ -10% ทั้งแผง