ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 64 ฟื้นตัว หลังรัฐงัดมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ดึงต่างชาติกลับมาท่องเที่ยว-ลงทุน ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ ฉีดวัคซีนครบ ไม่ต้องกักตัว คาดทำให้ยอดขายอสังหาฯ กลับมาคึกคัก แย้มปลายปี 64-65 เตรียมอสังหาฯ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท รองรับดีมานด์ พร้อมจัดโปรแรงกระตุ้นกำลังซื้อ
นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) อสังหาฯ ทางเลือกบนเกาะภูเก็ต เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2564 สัญญาณการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมาตรการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” คือแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยแผนนี้วางไว้ว่าจะเริ่มดีเดย์วันที่ 1 กรกฎาคม อีกทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) เปิดให้ประชาชนในพื้นที่ลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 ที่ www.ภูเก็ตต้องชนะ.com เพื่อเร่งการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมและทันเวลาเปิดแผนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ต่างชาติเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศได้บ้างแล้ว ซึ่งจะทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาลดลงเนื่องจากมาตรการปิดประเทศ ทำให้ต่างชาติที่เป็นลูกค้าหลักของ TITLE ไม่สามารถเข้ามาทำธุรกรรมในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม และทาง TITLE เองก็ให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“ถ้าหากรัฐบาลเริ่มเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าไทยได้ และโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นไปตามแผนที่ทางรัฐวางไว้ ก็จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและยอดการโอนของธุรกิจอสังหาฯทางเลือกของภูเก็ตอย่าง TITLE เนื่องจากมีลูกค้าต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และทำให้สามารถกลับมาทำธุรกรรมได้อีกครั้ง”
นายศศิพงษ์ กล่าวต่อว่า โครงการของ TITLE ที่รอส่งมอบจำนวน 93 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 366 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ The TITLE หาดราไว เฟส 5 จำนวน 78 ยูนิต มูลค่า 324 ล้านบาท 2.โครงการ The TITLE หาดในยาง เฟส 1 จำนวน 11 ยูนิต มูลค่า 31 ล้านบาท และ 3.โครงการ The TITLE หาดในยาง เฟส 2 จำนวน 3 ยูนิต มูลค่า 11 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการที่รอขายอีกกว่า 177 ยูนิต มูลค่า 887 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดขายกลับมาอีกครั้งเมื่อต่างชาติกลับเข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกรรม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวอีกว่า โครงการในอนาคตของ TITLE ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดในปลายปี 2564-2565 เพื่อรองรับการโอนกรรมสิทธิ์หากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย รวมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดการขาย ได้แก่ The TITLE หาดในยาง เฟส 3 (Halo 1) มูลค่า 1,473 ล้านบาท และ The TITLE หาดบางเทา เฟส 1 (Mori 1) มูลค่า 3,130 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการเปิดตัวโครงการขึ้นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนมาตรการจากหน่วยงานภาครัฐในการควบคุมและการผ่อนปรนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง TITLE ยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลและกำหนดแนวทางการบริหารจัดการในการเปิดตัวโครงการได้อย่างเหมาะสม พร้อมจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดกำลังซื้อกลับเข้ามา ซึ่งมีมูลค่าโครงการเพื่อรองรับการขายกว่า 1 หมื่นล้านบาท