ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 พ.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้ออาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,587.66 จุด ลดลง 681.50 จุด หรือ -1.99% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,063.04 จุด ลดลง 89.06 จุด หรือ -2.14% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,031.68 จุด ลดลง 357.75 จุด หรือ -2.67%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่การรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปและสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้บดบังความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 437.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ +0.30%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,279.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.96 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,150.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.47 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.63 จุด เพิ่มขึ้น 56.64 จุด หรือ +0.82%
--ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนของอังกฤษ และการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายเดือนของอังกฤษที่ดีเกินคาด ได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.63 จุด เพิ่มขึ้น 56.64 จุด หรือ +0.82%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดส่งออกน้ำมันดิบลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2561 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่ EIA และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 66.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 69.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2564
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 13.3 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,822.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 42.3 เซนต์ หรือ 1.53% ปิดที่ 27.244 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 15.3 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,225.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 77.20 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 2,849 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์นั้น จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.63% สู่ระดับ 90.7116 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.58 เยน จากระดับ 108.64 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9080 ฟรังก์ จากระดับ 0.9034 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2106 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2089 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2079 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2152 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4058 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4157 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7730 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7844 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 33,587.66 จุด ลดลง 681.50 จุด, -1.99%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,063.04 จุด ลดลง 89.06 จุด, -2.14%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,031.68 จุด ลดลง 357.75 จุด, -2.67%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.63 จุด เพิ่มขึ้น 56.64 จุด, +0.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,279.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.96 จุด, +0.19%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,150.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.47 จุด, +0.20%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 48,690.80 จุด ลดลง 471.01 จุด, -0.96%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,938.35 จุด ลดลง 37.44 จุด, -0.63%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,582.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.88 จุด, +0.31%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,236.40 จุด ลดลง 90.43 จุด, -1.43%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,123.26 จุด ลดลง 21.01 จุด, -0.67%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,231.04 จุด เพิ่มขึ้น 217.23 จุด, +0.78%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,462.75 จุด เพิ่มขึ้น 20.91 จุด, +0.61%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,902.37 จุด ลดลง 680.76 จุด, -4.11%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,161.66 จุด ลดลง 47.77 จุด, -1.49%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,147.51 จุด ลดลง 461.08 จุด, -1.61%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,044.90 จุด ลดลง 52.10 จุด, -0.73%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,281.10 จุด ลดลง 50.50 จุด, -0.69%