บล.เอเซียพลัส ประเมินตลาดหุ้นไทยเริ่มผ่อนคลายกังวลโควิด-19 หลังการระบาดในประเทศเริ่มลด วัคซีนคืบหน้า แถมได้ฤดูประกาศงบ Q1/64 มาช่วยเรียกความมั่นใจอีกแรง แนะ 12 หุ้นกลุ่มอิงส่งออก-สินค้าโภคภัณฑ์น่าลงทุน รับเศรษฐกิจประเทศใหญ่ฟื้นตัว หนุนเทรนด์การค้าโลกโต ประกอบกับดอลลาร์อ่อนค่าหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขาขึ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลดความกังวลจากประเด็นโควิด-19 ลงบ้าง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ของไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งในมุมของระดับ Active Case ที่ลดลง ทำให้สถานพยาบาลต่างๆ ยังมีช่องว่างให้รองรับ รวมถึงพัฒนาการของวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Fund Flow จะมีสัญญาณไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง หรือตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากปัจจัยหนุนต่างๆ ดังนี้
สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ของไทยมีแนวโน้มดีขึ้น และพัฒนาการของวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่นล่าสุด บริษัท AstraZeneca (ประเทศไทย) ระบุว่า วัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในไทยผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพของ AstraZeneca ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเราที่จะส่งมอบวัคซีนในเร็วๆ นี้
ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดเผยเตรียมนำเข้าวัคซีน Pfizer เข้ามาจำนวน 10-20 ล้านโดส โดยจะทยอยส่งมอบในไตรมาสที่ 3-4Q64
อีกทั้งสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่บริษัทส่วนใหญ่รายงานงบ Q1/64 ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินว่าส่วนใหญ่น่าจะเติบโตได้ดีและดีกว่าคาด โดยภาพรวมกำไร Q1/64 มีโอกาสสูงเกิน 2 แสนล้านบาท (จากฐานที่ต่ำในงวด Q1/63 ที่ 9.2 หมื่นล้านบาท) เป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่จะเป็นแม่เหล็กดูดสภาพคล่องส่วนเกินและ Fund Flow
เปิดโผ 12 หุ้นส่งออก-โภคภัณฑ์น่าลงทุน รับการค้าโลกฟื้น
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมอง Theme การลงทนหุ้นที่น่าสนใจ และราคาหุ้นน่าจะ Perform ได้ดีในช่วงหลังจากนี้ มาจากหุ้นที่อิงส่งออกและหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้นที่อิงส่งออก เนื่องจากไทยพึ่งพิงภาคส่งออกสูงถึงราว 64% ของ GDP และปี 64 การค้าโลกฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะประเทศหัวเรือใหญ่ (จีน, สหรัฐฯ) และตอกย้ำความเชื่อหลังจากเมื่อวันศุกร์ ประเทศจีนรายงานส่งออกเดือน เม.ย.64 ขยายตัว 32.3%yoy (สูงกว่าที่ตลาดคาด 24.1%) ส่วนการนาเข้าเดือนเดียวกันขยายตัว 43.1% (ตลาดคาด 42.5%)
ทั้งนี้ เชื่อว่าภาคส่งออกจะเป็นฟันเฟือง 1 ตัวที่มีแนวโนมสดใสตลอดทั้งปี หลังจากการบริโภคในประเทศฟื้นตัวล่าช้า หุ้นส่งออกที่แน่นำลงทุน ได้แก่
กลุ่มเกษตร-อาหาร : แนะนํา CPF (FV@B42) และ TFG (FV@B6.20) TU (FV@B20)
ธุรกิจยางพาราเติบโต แนะนําซื้อ NER (FV@B7.50) และ STA (FV@B60)
กลุ่มยานยนต์ : แนะนําลงทุน SAT(FV@B19.6) และ STANLY(FV@B220)
กลุ่มเหล็ก : แนะนำลงทุน MCS (FV@ B21.9) และ กลุ่มถั่วเหลือง TVO (FV@B37.0)
ส่วนหุ้นที่อิงสินค้าโภคภัณฑ์ หากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมที่หนุนราคา คือ 1.) Dollar Index ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าชัดเจนต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 90.1 จุด อ่อนค่าต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค. 64 2.) เศรษฐกิจหัวเรือใหญ่ของโลกที่ฟื้นตัวเร็ว หนุนการบริโภคสินค้า โดยรวมทำให้ยังเห็นราคาสินคาโภคภัณฑ์หลายตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้นชัดเจน และบางตัวทำ New High โดยหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่แนะนำลงทุนได้แก่
กลุ่มพลังงาน PTTEP(FV@B128), PTTGC(FV@B69.0)
กลุ่มเหล็ก : TMT (FV@ B14. และกลุ่มถั่วเหลือง TVO (FV@B37.0)