ในตลาดหุ้นไทย GIC PRIVATE LIMITED หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์ ลงทุนในประเทศไทยจำนวนหลักหลายหมื่นล้าน และจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ที่เปิดเผย 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรากฏว่า GIC ถือหุ้นใหญ่ใน 12 หลักทรัพย์ มูลค่ารวม 47,447,512,117 บาท (คำนวณ ณ 7 พ.ค.64)
1.CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์) มาร์เกตแคป 561,443 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 6 (ถือ 223,785,489 หุ้น หรือ 2.49%) คิดเป็นมูลค่า 13,986,593,062 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 62.50 บาท ขณะผลตอบแทนราคาปี 64 พอใช้ได้ YTD +7.30%
2.ADVANC (บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส) มาร์เกตแคป 505,504 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 6 (ถือ 40,429,963 หุ้น หรือ 1.36%) คิดเป็นมูลค่า 6,873,093,710 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 170.00 บาท ขณะผลตอบแทนราคาปี 64 ยังติดลบ YTD -3.41%
3.OR (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก) มาร์เกตแคป 357,000 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 3 (ถือ 215,000,000 หุ้น หรือ 1.79%) คิดเป็นมูลค่า 6,396,250,000 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 29.75 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังทำผลงานได้ดี จากราคา IPO 18.00 บาท ล่าสุด 29.75 บาท เพิ่มขึ้นมา 11.75 บาท หรือ +65.28%
4.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 121,381 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 3 (ถือ 93,201,928 หุ้น หรือ 4.57%) คิดเป็นมูลค่า 5,545,514,716 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 59.50 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังทำผลงานได้พอใช้ได้ YTD +14.42%
5.CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) มาร์เกตแคป 247,573 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 8 (ถือ 152,842,822 หุ้น หรือ 1.77%) คิดเป็นมูลค่า 4,394,231,132 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 28.75 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังทำผลงานได้พอใช้ได้ YTD +7.48%
6.KBANK (บมจ.ธนาคารกสิกรไทย) มาร์เกตแคป 296,165 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 10 (ถือ 27,082,037 หุ้น หรือ 1.14%) คิดเป็นมูลค่า 3,385,254,625 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 125.00 บาท ขณะผลตอบแทนราคาปี 64 ยังทำผลงานได้พอใช้ได้ YTD +10.62%
7.AWC (บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป) มาร์เกตแคป 152,960 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 5 (ถือ 680,859,400 หุ้น หรือ 2.13%) คิดเป็นมูลค่า 3,254,507,932 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 4.78 บาท ขณะผลตอบแทนราคา CPALL ในปี 64 ยังทำผลงานได้พอใช้ได้ YTD +4.82%
8.INTUCH (บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์) มาร์เกตแคป 205,216 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 10 (ถือ 21,620,700 หุ้น หรือ 0.67%) คิดเป็นมูลค่า 1,383,724,800 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 64.00 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังทำผลงานได้พอใช้ได้ YTD +13.78%
9.MAJOR (บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป) มาร์เกตแคป 16,998 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 3 (ถือ 54,254,100 หุ้น หรือ 6.06%) คิดเป็นมูลค่า 1,030,827,900 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 19.00 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังทำผลงานบวกเล็กๆ YTD +3.83%
10.KEX (บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)) มาร์เกตแคป 73,950 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 9 (ถือ 13,900,000 หุ้น หรือ 0.80%) คิดเป็นมูลค่า 590,750,000 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 42.50 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังติดลบ YTD -13.71% (เพิ่งเข้าเทรดเมื่อปลายปี 63 ที่ผ่านมา ร้อนแรง โดย YTD +75.89%)
11.BAM (บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์) มาร์เกตแคป 64,640 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 6 (ถือ 26,926,787 หุ้น หรือ 0.83%) คิดเป็นมูลค่า 538,535,740 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 20.00 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังติดลบ YTD -8.68%
12.SHREIT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้) มาร์เกตแคป 1,023 ล้านบาท GIC ถือในลำดับที่ 2 (ถือ 68,228,500 หุ้น หรือ 19.34%) คิดเป็นมูลค่า 197,862,650 ล้านบาท ณ วันที่ 7 พ.ค.64 ราคาปิด 2.90 บาท ขณะผลตอบแทนราคาในปี 64 ยังติดลบ YTD -7.64%
เป็นที่น่าสังเกตว่า ใน 12 หลักทรัพย์เหล่านี้มีมากถึง 8 หลักทรัพย์ที่มูลค่ามาร์เกตแคปเกิน 1 แสนล้านบาทขึ้นไป และเป็นการลงทุนในทรัสต์เพียงแค่ 1 หลักทรัพย์เท่านั้น