xs
xsm
sm
md
lg

JMART จ่อปรับเพิ่มเป้ากำไรปีนี้คาดโต 50%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



JMART เล็งปรับเพิ่มเป้ากำไรปีนี้จากเดิมคาดโต 50% รับ JFIN COIN หลังจ่อเปิดตัวแคมเปญลด แลก แจกสินค้าในเครือ เริ่ม 17 พ.ค.นี้ หวังหนุนรายได้เพิ่มอีก 70 ล้านบาท/เดือน รับรู้ มิ.ย.เป็นต้นไป ด้านกิมเอ็ง แนะนำซื้อ ปรับราคาเหมาะสมเป็น 44.50 บาท และปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้น 2-4%

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรปีนี้จากเดิมคาดหวังเติบโต 50% จากปีก่อนที่ทำได้ 797.87 ล้านบาท เนื่องจากมีการจัดแคมเปญ ใช้ JFIN COIN โดยการลด แลก แจกสินค้าในเครือผ่าน 21 โครงการ ให้ลูกค้าของกลุ่มเจมาร์ท 7 บริษัทในเครือ ซึ่งจะเปิดตัวรายละเอียดโครงการวันที่ 17 พ.ค.นี้

"หากเวิร์กเราคงต้องปรับเป้าผลการดำเนินงาน แต่ตอนนี้ขอทดลอง และรอดูผลว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้หรือไม่" นายอดิศักดิ์ กล่าวในงาน JMART Group ปฏิวัติการทำการตลาด และภาพรวมโครงการ การใช้ดิจิทัลโทเคน JFIN

เพิ่มรายได้จาก JFIN COIN 70 ล้านต่อเดือน

เขากล่าวว่า การนำ JFIN COIN มาใช้ครั้งนี้คาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อรวมรายได้ของสินค้าและบริการที่จะเกิดขึ้นจากโปรแกรมนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ดังกล่าวตั้งแต่ช่วง มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ สินค้าบริษัทในเครือที่จะใช้ลด แลก แจก เช่น การนำเหรียญ JFIN มาแลกสมาร์ทโฟน ใช้ซื้อของออนไลน์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ JMART ใช้เหรียญมาเป็นส่วนลดสินค้า รวมถึงการแจกเหรียญเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ใน JMART และใช้เหรียญเพื่อส่วนลดสำหรับการซื้อบ้านมือ 2 เป็นต้น

นอกจากการใช้ JFIN COIN กับกลุ่มลูกค้า บริษัทจะให้ JFIN COIN ต่อพนักงานในรูปแบบ ETOP ตามอายุการทำงาน หรือเงื่อนไขที่จะออกมาเป็นหลักเกณฑ์ เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากรของบริษัทในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างการเจริญเติบโตให้แก่กลุ่มบริษัทเจมาร์ท

"เบื้องต้นบริษัทจะใช้เหรียญกับกลุ่มพนักงาน 9,000 คน และลูกค้าอีก 7 ล้านคนได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับการใช้เหรียญ JFIN ก่อน และในอนาคตจะใช้เหรียญกับกลุ่มพาร์ตเนอร์ธุรกิจอื่นๆ ต่อไป" นายอดิศักดิ์ กล่าว

กิมเอ็งแนะนำซื้อ ปรับราคาเหมาะสมเป็น 44.50 บาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q64 บริษัทมีกำไรปกติเท่ากับ 265 ล้านบาท โดย -2%QoQ,+152%YoY หากจำแนกตามรายธุรกิจ คาดว่า 1.ผลกำไรจาก JMT-SINGER ส่งเข้ามาตามสัดส่วนราว 200 ล้านบาท 2.ธุรกิจมือถือ ยังเป็นการพลิกมีกำไร YoY แต่ชะลอตัว QoQ จากการเปิดตัวสินค้าน้อยลงและยังขาดตลาด 3.J คาดกำไรทรงตัว QoQ ราว 50 ล้านบาท ทยอยรับรู้ backlog อสังหาฯ ในมือ 4.KBJ เริ่มปล่อยสินเชื่อมือถือในเดือน ม.ค.-ก.พ. เติบโตได้ MoM ก่อนที่ Kashjoy สินเชื่อส่วนบุคคลเริ่มปล่อยช่วงปลายไตรมาส ทั้งนี้ คาดมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการตีมูลค่า KBJ หลังลดสัดส่วนถือหุ้นให้ KB Kookmin card หลังภาษีราว 140 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ควบคู่กับภาพกำไรรายได้ไตรมาสที่แข็งแรงและรายปีที่จะทำ All time high ได้ไม่ยาก คาดจะเห็นพัฒนาการบวกจากหลายธุรกิจที่มีจุดเปลี่ยนในปีนี้ ได้แก่ i) SINGER ที่รุกตลาดมากขึ้นทั้งธุรกิจเช่าซื้อ-จำนำทะเบียนฯ ก่อนจะ Spin-off ปีหน้า ii) การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อของ KBJ ที่จะเร่งขึ้นอย่างมีนัยหลังปรับโครงสร้างเสร็จแล้วใน 1Q64 iii) J - คาดเปิดศูนย์ใหม่ “Jas Kubon” ในช่วงปลายปี และเรายังเชื่อว่ายังมีโอกาสใหม่รออยู่เสมอ ล่าสุดธุรกิจนายหน้าและโลจิสติกส์ที่จะมาเสริม Synergy และเชิงมูลค่าในอนาคต

นอกจากนี้ การปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้น 2-4% เป็น 1,217/1,635 ล้านบาท +52/+34%YoY พร้อมกับราคาเหมาะสมปีนี้ขึ้น 6% เป็น 44.50 บาทต่อหุ้น อิงวิธี SOTP เป็นไปตามมูลค่าเหมาะสมของ SINGER ที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่ถืออยู่ หากคิดเป็น P/E ปัจจุบันอยู่ที่ 34 เท่า ยังต่ำกว่าการเติบโตของกำไรเฉลี่ยใน 2 ปีข้างหน้า (2Yr-CAGR) ที่ 43% หรือเท่ากับ PEG 0.8 เท่า

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นไตรมาสเปิดฉากที่ดีของ JMART ในปีนี้ ยังไม่นับรายการพิเศษที่หนุนแรงเก็งกำไรช่วงสั้น จะเห็นได้ว่าทุกธุรกิจสามารถทำกำไรและมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้เจอปัจจัยภายนอกอย่างโควิด-19 จะดูรุนแรงอีกครั้ง สะท้อนถึงความสามารถแข่งขันธุรกิจครบวงจรของเครือ โดยเฉพาะ SINGER-KBJ ที่จะเป็นดาวรุ่งน่าจับตา ยังไม่รวมศักยภาพในธุรกิจใหม่ที่ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสโดดเด่นสวนตลาดในยามผันผวนได้ ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน P/E 34x ยังไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรแบบ J-Curve ที่สูงถึง 40% ในปี 2564-65


กำลังโหลดความคิดเห็น