"ไทยออพติคอล กรุ๊ป" เผยกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว แนวโน้มยอดขายปีนี้อยู่ในทิศทางปรับตัวดีขึ้น

ไทยออพติคอล กรุ๊ป หรือ TOG เผยภาพรวมธุรกิจเริ่มฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อจากลูกค้าหลักทั้งในอเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรป ส่งผลภาพรวมธุรกิจไตรมาสแรกปี 2564 อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อน จากแนวโน้มสภาพธุรกิจฟื้นตัว คาดว่ายอดขายปีนี้อยู่ในทิศทางปรับตัวดีขึ้น

นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยผลการดำเนินการประจำไตรมาส 1 ของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 582 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28 โดยผลกำไรสุทธิ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 152 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและต้นทุนที่ลดลง

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในไตรมาสแรก ปี 2564 มีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อน บริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าหลักทั้งในอเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรป กลุ่มประเทศที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สืบเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันให้ประชากรเพิ่มเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

"ความคืบหน้าของบริษัทย่อยฯ บริษัท ทีโอจี ยุโรป (TOG EUROPE SP Z O.O.) ที่ได้มีการทดสอบระบบการจัดการคำสั่งซื้อส่งมอบและระบบคลังสินค้า มีแผนเริ่มการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะเริ่มเห็นผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ในด้านบริษัท ทีโอจี ยูเอสเอ ไอเอ็นซี (TOG USA Inc.) ยังคงมีแนวโน้มธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสามารถทำยอดขายเติบโตได้ดีกว่าปีที่แล้ว"

นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้มีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น อีกทั้งยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ยังต้องรอการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการขยายตัวของตลาดเลนส์แว่นตา ทั้งในอเมริกา เอเชียแปซิฟิก และยุโรป ยังคงมีแนวโน้มความต้องการใช้เลนส์แว่นตาเพิ่มขึ้นด้วยเหตุจากการระบาดระลอกใหม่ ทำให้ผู้คนต้องลดการเดินทาง ใช้ชีวิตติดบ้านมากขึ้น กิจกรรมและกิจวัตรประจำวันมีแนวโน้มใช้เวลาบนหน้าจอสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาสายตาจากการใช้สายตาบนหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลายาวนานขึ้น เช่น อาการตาอ่อนล้า ปวดตา ตาพร่า และอื่นๆ เลนส์แก้ปัญหาสายตายังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาด้านสายตาเหล่านี้ได้